Page 114 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 114
C6
การพัฒนาระบบบริ0.การการแพทย์ฉุกเฉิน ตามการรับรู้และความคาดหวัง ของประชาชน
โดยการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด ส่วนราชการ (บวร) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
นางพฤกษชาติ ทบแป
โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เขตสุขภาพที่ 9
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
โรงพยาบาลปราสาท ให้บริการพื้นที่อำเภอปราสาท จำนวน 18 ตำบล จำนวน 241 หมู่บ้าน ผลการ
ดำเนินงานในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของอำเภอปราสาท ปีงบประมาณ 2565 และ2566 เมื่อเปรียบเทียบ
ข้อมูลผู้ป่วยวิกฤติและผู้ป่วยฉุกเฉิน (Resuscitation & Emergency) ที่มารับบริการในโรงพยาบาลปราสาท
ผู้ป่วยที่มาด้วยระบบการแพทย์ฉุกเฉินเพียงร้อยละ 34.65 และ 38.45 ตามลำดับ ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์ตัวชี้วัด
จังหวัด โดยญาติส่วนใหญ่ไม่คิดว่าอาการดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉิน จึงรอสังเกตอาการผู้ป่วยก่อน เมื่อรุนแรง
มากจึงค่อยนำส่งโรงพยาบาล ส่งผลให้เกิดภัยคุกคามต่อชีวิตและพิการ และถึงแม้จะมีระบบการประสานงาน
ให้หน่วยกู้ชีพตำบลในพื้นที่ เป็นหน่วยบริการที่ไปถึงตัวผู้ป่วยก่อน รวมทั้งยังมีสมาคมกู้ชีพ ซึ่งอยู่ในความ
อุปถัมภ์ของวัดในพื้นที่ เข้ามามีบทบาทช่วยแบ่งเบาภารกิจบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และเริ่มมีการตื่นตัว
ของส่วนราชการเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินร่วมด้วย แต่กระนั้นก็ยังพบว่าผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินไม่ได้มา
โรงพยาบาลโดยระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่า
การรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับระบบการแพทย์ฉุกเฉินยังมีประเด็นที่ต้องพัฒนา ผู้วิจัยจึงต้องการศึกษาการรับรู้
และความคาดหวังของประชาชน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวกับระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน โดยการมีส่วนร่วมของภาคี
เครือข่าย ครัวเรือนหรือชุมชนหรือสถานประกอบการ วัด และส่วนราชการ(บวร) ในพื้นที่อำเภอปราสาท
จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้การพัฒนาที่สอดคล้องกับบริบทที่แท้จริง
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ตามการรับรู้และความคาดหวัง ของประชาชน
โดยการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด ส่วนราชการ (บวร) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
วิธีการศึกษา
การวิจัยและพัฒนาผสานวิธีวิจัยหลายขั้นตอน ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ในขั้นตอนที่1 มุ่งศึกษา
และทำความเข้าใจการรับรู้และความคาดหวังต่อระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในอำเภอปราสาท จังหวัด
สุรินทร์ และสอบถามข้อคิดเห็นในมุมมองของกลุ่มตัวอย่าง ที่เลือกแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้รับบริการการแพทย์
ฉุกเฉิน ญาติ ตัวแทนครัวเรือนในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน พระภิกษุสงฆ์
และบุคลากรของส่วนราชการ ในพื้นที่จำนวน 900 ราย ในประเด็นบทบาทเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบ
บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นได้ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา จากนั้นนำ
ผลการวิจัยจากขั้นตอนที่1เข้าสู่การพัฒนา ในขั้นตอนที่2 ประชุมกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำข้อเสนอการพัฒนา
ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามการรับรู้และความคาดหวัง ของประชาชน โดยการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด
ส่วนราชการ (บวร) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ขั้นตอนที่3 ติดตามผลการพัฒนาในภาพรวมของพื้นที่