Page 218 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)

F4

หนึ่งห้องคลอด หนึ่งจังหวัด นวัตกรรมการพัฒนาบริการทางการแพทย์
เพื่อลดการเกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ในมารดาและทารก

One Labor Room One Province of Medical Service Innovation for reducing

adverse maternal and perinatal outcome.

แพทย์หญิงราตรี เจะเอาะ, นางสาวธิติภรณ์ ฉิมพลีปักษ์
โรงพยาบาลปัตตานี เขตสุขภาพที่ 12

ประเภท วิชาการ

ความสำคัญของปัญหาวิจัย

วิกฤติงานอนามัยแม่และเด็กในพื้นที่จังหวัดปัตตานีตั้งแต่อดีตที่ผ่านมามีสาเหตุมาจากหลายมิติ
ส่งผลให้จังหวัดปัตตานีเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ของทั้งมารดาและทารกในอัตราที่สูงกว่าจังหวัดในภาคอื่นๆ
ของประเทศไทย กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรมโรงพยาบาลปัตตานี จึงได้ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมบริการ
ทางการแพทย์ One Node One Province ตั้งแต่กลางปี 2561 คือ การ Round ward ผู้ป่วยที่อยู่ในห้องคลอด

ร่วมกันกับแพทย์เวรห้องคลอดทุกโรงพยาบาลชุมชนและสูติแพทย์เวรห้องคลอดโรงพยาบาลปัตตานี เพื่อลด
การเกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ในมารดาและทารก ซึ่งจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทยที่เริ่มต้น
บริหารจัดการห้องคลอดทุกโรงพยาบาลร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น One Labor Room
One Province และพัฒนาต่อยอดเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติงานอนามัยแม่และเด็กในพื้นที่จังหวัดปัตตานีจนถึง

ปัจจุบัน

วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ของทั้งมารดาและทารกระหว่างก่อนและหลังการใช้นวัตกรรม
การพัฒนาบริการทางการแพทย์ One Labor Room One Province

วิธีการศึกษา
การศึกษาในรูปแบบ Descriptive Cross sectional study โดยเลือกผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อจากโรงพยาบาล

ชุมชนทุกราย ตาม Inclusion criteria และ Exclusion criteria ในช่วงปี 2558-2560 และปี 2564-2566
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้วิจัยขออนุญาตเปิดแฟ้มประวัติของผู้เข้าร่วมวิจัยซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้
บันทึกไว้เป็นข้อมูลทางการแพทย์โดยบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อใช้ในการดูแลรักษาในโรงพยาบาลปัตตานี

เป็นปกติอยู่แล้ว โดยได้มีการบันทึกเป็นข้อมูลที่เก็บไว้ในรูปแบบของรายงานการคลอดและอุบัติการณ์ในห้องคลอด
และจากการบันทึกข้อมูลในรูปแบบโปรแกรม Epi Info

ผลการศึกษา
การศึกษานี้พบว่าหลังจากที่ได้มีการนำนวัตกรรม One Labor Room One Province มาใช้ตั้งแต่
ปี 2561 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และทำการศึกษาในปีพ.ศ.2563-2566เปรียบเทียบกับปี2558-2560 พบว่าการส่งต่อ

หญิงตั้งครรภ์จากห้องคลอดโรงพยาบาลชุมชนเข้ามารักษาต่อกับสูติแพทย์ที่ห้องคลอดโรงพยาบาลปัตตานี
มีจำนวนมากขึ้นจากเดิม 12% (44% : 56%), พบทารกมีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดได้เข้าถึงการรักษาใน NICU
ได้ทันเวลาเป็นจำนวนมากขึ้นจากเดิม (21.68 : 24.25%, p<0.05), จำนวนทารกแรกเกิดมีภาวะขาดออกซิเจนน้อยลง
จากเดิม (6.41% : 4.35%, p<0.05), จำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรงได้รับการวินิจฉัย
และส่งต่อได้รวดเร็วและมากขึ้นจากเดิม (14.51% : 18.06%, p<0.05), จำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเลือดออก