Page 223 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)

F9

4. Ward เตรียมความพร้อม ทบทวนคู่มือ
5. ระบบ Fast tract / ER / OPD
6. ให้การดูแลรักษาตามมาตรฐาน CPG/Care Map

7. กำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพระบบส่งต่อ
เพื่อนำมาวิเคราะห์และพัฒนาต่อเนื่อง
การพัฒนาสมรรถนะ 1.ระบบ Consult ขาดความชัดเจน 1. มีระบบ Consult(แพทย์) เฉพาะในเครือข่าย
Competency 2.หากมีผู้ป่วยหนักจากตึกเด็กจะ 2. กำหนดเกณฑ์การย้ายของแต่ละตึก กรณีที่วิกฤต

บุคลากร ย้ายลงมาที่ ไอซียู กึ่งวิกฤต ตึกผู้ป่วยหนักดูแล
2.ตึกเด็กไม่มีแผนว่าจะได้รับทารกป่วย 2. เพื่อนช่วยเพื่อน ด้วยการจัดเวรผ่านทางระบบ
3.ตึกพิเศษ หลังคลอด ไม่สามารถ ควบคู่กับ Staffระยะเวลา 1 เดือน

ดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลืองได้ 3.ตึกพิเศษ หลังคลอด สามารถดูแลทารกที่มีภาวะ
กุมารแพทย์ไม่สามารถออกตรวจ ตัวเหลืองได้ กุมารแพทย์รับตรวจประเมินทุกวัน
ประเมินได้

อภิปรายผล การดำเนินงานเครือข่ายกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลยโสธรมีความต่อเนื่อง จึงพบว่า ระบบบริหาร

บริการชัดเจน มีช่องทางการสื่อสารที่รวดเร็ว สามารถเข้าถึงบริการได้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน อัตราการส่งมารักษาต่อ
ลดลงแสดงถึงระบบบริการทั้ง โรงพยาบาลแม่ข่าย และ โรงพยาบาลในเครือข่าย สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ

สรุปและข้อเสนอแนะ มาตรการการดูแลผู้ป่วยกุมารเวชกรรม ที่จะ ลดป่วย 1) ลด Preterm delivery :
ANC คุณภาพ ผลักดันให้มีการใช้ Progesterone 2) ลด BA ลดการติดเชื้อ : ANC,LR,NB Care คุณภาพ

จัดอบรม CPR ต่อเนื่อง Transfer NB และการให้นมแม่ในเด็กป่วย 3) ในโรค DHF ให้ Dx ที่รวดเร็ว ใช้ CPG
ล ด Complication 4) Asthma ลด Re Admission ลด Re visit และ ลด Respiratory failure ลดตาย
1) ระบบIntrauterine transfer 2) มีระบบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง NB, Paediatric ทั้งในและนอกจังหวัด
3) เพิ่มศักยภาพบุคลากรเฉพาะทาง NB ลดรอคอย 1) Refer in ใน case วิกฤต เช่น Sepsis Respiratory

failure 2) Refer bypass ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ในกรณี Cyanotic heart disease, Ped Surgery
3) โรงพยาบาลสามสหาย มีการใช้เตียง NICU ร่วมกันในเขต 10 ลดแออัด 1) มีจำนวนเตียง ที่เพียงพอ
2) Refer back กลับโรงพยาบาลชุมชน ในกรณี Chronic stable disease/PC 3) เพิ่มอัตรากำลังและศักยภาพ

แพทย์ พยาบาลเฉพาะทางในการให้บริการรักษาพยาบาลในทารกและเด็ก 4. จำหน่ายติดตามด้วยระบบ
Telemedicine