Page 221 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 221
F7
ภายในโรงพยาบาล เพิ่มพูนความรู้และทักษะเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องโดย 1) จัดอบรมฟื้นฟูความรู้ทักษะ
แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เช่น งานห้องคลอด ตึกสูติกรรม หอผู้ป่วยพิเศษ คลินิกเด็ก โดยกุมารแพทย์
ในหัวข้อ การดูแลทารกที่มีภาวะตัวเหลือง และ การช่วยฟื้นคืนชีพทารกแรกเกิดและเด็ก รวมถึงการใช้ระบบบริการ
การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) 2) มีระบบให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทารกแรกเกิดและผู้ป่วยเด็ก
ในรายที่มีปัญหา ด้วยการทำ Care map ที่ผ่าน QR Code (รพช.เมื่อมีปัญหาาด้านการรักษาพยาบาลในเบื้องต้น
เข้า QR Cord ในเรื่องนั้นๆก่อน Consult) 3) มีระบบส่งเสริม คัดกรอง ช่วยเหลือ ติดตาม ของทารกและเด็กกลุ่มเสี่ยง
รวมถึงมารดาที่มีปัญหาเมื่อถูกจำหน่ายกลับบ้านและการ Follow up ผ่าน ระบบบริการการแพทย์ทางไกล
(Telemedicine) ภายนอกโรงพยาบาล พัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขด้านการดูแลทารกแรกและเด็กป่วย
ตามเกณฑ์ ด้วยการจัดประชุมพร้อมทั้งระดมสมองในการคิดรูปแบบการพัฒนาเครือข่าย ด้วยการดำเนินงาน ดังนี้
ด้านบริหารจัดการ(การพัฒนาระบบส่งต่อ) 1) มีการประสานการส่งต่อผู้ป่วย level 1-2 ทุกราย โดยทีม
โรงพยาบาลชุมชน Consult โรงพยาบาลยโสธร ผ่าน Line gr. Consult กุมารแพทย์ โรงพยาบาลยโสธร
2) มีการประเมินคุณภาพของบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่นำส่งผู้ป่วยทั้ง ก่อน-ระหว่าง-หลังส่งต่อผู้ป่วยทุกราย
และกุมารแพทย์ ประเมินปัญหาผู้ป่วยเด็ก ให้การวินิจฉัย & วางแผนการรักษา: รับ Refer จาก โรงพยาบาล
ชุมชน มา โรงพยาบาลยโสธร 3) ติดตามอาการผู้ป่วยขณะส่งต่อ และกุมารแพทย์แจ้งพยาบาล ward เด็ก
เตรียมเตียง & O2 /อุปกรณ์การแพทย์ เพื่อรองรับ case Refer จาก รพช. 4) มีการจัดการภาวะไม่พึงประสงค์
(Adverse event) ในการส่งต่อผู้ป่วย เมื่อมาถึง โรงพยาบาลด้วยระบบ Fast tract / ER / OPD ตาม Condition
ของแต่ละ Case 5) เข้าสู่ระบบการดูแลรักษา ตามมาตรฐานทาง กุมารเวชศาสตร์จาก โรงพยาบาลยโสธร CPG / Care Map
6) กำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพระบบส่งต่อเพื่อนำมาวิเคราะห์และพัฒนาต่อเนื่อง
ด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร 1) จัดอบรมวิชาการการดูแลทารกและเด็กพื้นฐานและวิกฤตทุกปี
2) อบรมการช่วยฟื้นชีพเด็กและทารกแรกเกิด (P-N-CPR) ต่อเนื่องทุกปี 3) ติดตามนิเทศและประเมินผลการดำเนินงาน
ผ่านระบบ Zoom 4) เพื่อนช่วยเพื่อน ด้วยการจัดเวรผ่านทางระบบ ควบคู่กับ Staff เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแล
ผู้ป่วย เช่น จัดเวรเสริมเพื่อเพิ่มทักษะให้กับผู้ปฏิบัติ(จัด Staff RN) ระยะเวลา 1 เดือน ส่วนกระบวนการในการดูแล
ก็ยังคงเป็นปกติ เพียงรอโอกาสอบรมเพิ่มสมรรถนะ(เฉพาะทาง) ตามแผนและโอกาสที่กำลังดำเนินการ
ระยะที่ 3 ระยะประเมินผล (Observation ) ประเมินผลตามตัวชี้วัด 1) เปิดดำเนินการ NICU 8 เตียง
2) เปิด PICU 8 เตียง 3) ตึกกุมารเวชกรรมลองรับและให้บริการทารกป่วย (Sick Newborn) 10 เตียง 4) บริหารจัดการ
ด้วยระบบ Paper Less 4) อัตราการตายทารกแรกเกิดอายุ <28 วันลดลงตามเกณฑ์ < 3.60 : 1000 LB 2) อัตราส่วน
ของเตียง < 1 : 500 และการตรวจเยี่ยมประเมินเครือข่าย ด้วยวิธีการวิชาการสัญจร (ปี 2567 ใช้ระบบ Zoom
ประเมินการมีและการใช้เครื่องมือ ความพร้อมแต่ละจุดในการรองรับ ระบบบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ระยะที่ 4 ระยะสะท้อนข้อมูล(Reflection) การสะท้อนผลการศึกษาคืนกลับสู่คณะทำงานในเครือข่าย
โดยใช้มาตรการ One Province One Paediatric Ward : ลดป่วย ลดตาย ลดรอคอย ลดแออัด
ผลการศึกษา
การดำเนินงานตามตัวชี้วัด เป้าหมาย 2564 2565 2566 2567
(กพ.)
1. หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม (รวมP-NICU) 16 เตียง 20 20 20 16
1.1 NICU 8 เตียง 8 8 8 8
1.2 PICU 8 เตียง 2 2 2 8
1.3 SNB 10 เตียง 10 10 10 0
2. หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 40 เตียง 30 30 30 40