Page 225 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 225
F11
วิธีการศึกษา
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาในลักษณะของการพัฒนารูปแบบการให้บริการติดตามดูแลหญิงตั้งครรภ์
อย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับปรุงเครื่องมือในการติดตามมาเรื่อย ๆ โดยวัดผลจากความพึงพอใจของหญิงตั้งครรภ์
ต่อรูปแบบการติดตามดูแลหญิงตั้งครรภ์ จนถึงระยะหลังคลอด ผ่านระบบ line official account MCH
WATCHAN และอัตราการเกิด BBA โดยมีประชากรกลุ่มเป้าหมาย คือ หญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในระหว่างการฝากครรภ์
ระยะเวลาในการศึกษา เริ่มตั้งแต่ 17 กรกฎาคม 2566– 31 มีนาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
คือ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการติดตามดูแลหญิงตั้งครรภ์ผ่าน line Official account MCH
WATCHAN และแบบบันทึกการเกิด BBA โดยมีวิธีการศึกษา ดังนี้
1. ทบวนเหตุการณ์สำคัญร่วมกับทีม PCT ได้แก่ case Preterm และ BBA ซ้ำ ในครรภ์ที่ 2, Case PIH
เกิด dead fetus in utero รวมทั้งทบทวนความเสี่ยงต่างๆ ในหญิงตั้งครรภ์แต่ละรายที่มาฝากครรภ์ในครั้งนี้
2. ประชุมวางแผนการเฝ้าระวังหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง และการติดตามดูแลหญิงตั้งครรภ์ โดยทำงาน
เชิงรุก
3. พัฒนารูปแบบการเฝ้าระวังความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์หลังจากกลับไปอยู่ที่บ้าน เริ่มแรกเน้นย้ำการให้
คำแนะนำก่อนกลับบ้านทุกคน ถึงอาการสำคัญที่หญิงตั้งครรภ์ต้องรีบมาโรงพยาบาล และทำเป็น note ติดด้านหลัง
สมุดสีชมพู เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้กลับมาอ่านซ้ำ นอกจากนี้ได้มีการประเมินความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ในแต่ละราย
ตั้งแต่แผนกฝากครรภ์ โดยมีการติด note ความเสี่ยง ทำเป็นแผ่นกระดาษเล็กๆ ที่หน้าปกสมุดสีชมพู เพื่อเป็น
การสื่อสารความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นปฏิบัติงานอุบัติเหตุฉุกเฉินและห้องคลอด ทั้งในเวลาและนอกเวลา
ราชการ และโทรศัพท์ติดตามหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงทุกวัน
4. เพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างหญิงตั้งครรภ์กับเจ้าหน้าที่โดยทำเป็นรูแบบ Open chat เปิดโอกาสให้
หญิงตั้งครรภ์ได้สอบถามอาการผิดปกติ หรือความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ตลอดจนถึงการใช้ยาขณะตั้งครรภ์
แต่พบปัญหาว่าการสอบถามไม่เป็นส่วนตัว และไม่ทราบประวัติของหญิงตั้งครรภ์ บางรายไม่กล้าสอบถาม จึงพัฒนา
มาเป็นรูปแบบการติดตามดูแลหญิงตั้งครรภ์ผ่าน Line Official account MCH WATCHAN เสมือนเป็นการเปลี่ยน
ช่องทางการสื่อสารระหว่างหญิงตั้งครรภ์กับเจ้าหน้าที่ เป็นการรักษาความลับข้อมูลของหญิงตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
5. จัดตั้ง line official account MCH WATCHAN โดยมีพยาบาลวิชาชีพที่รับผิดชอบงานฝากครรภ์,
ห้องคลอด, หลังคลอด และได้เชิญเภสัชกรมาเป็น ADMIN ร่วมกัน ซึ่งพยาบาลวิชาชีพที่รับผิดชอบงานฝากครรภ์
และห้องคลอด จะรับผิดชอบติดตามดูแลอาการผิดปกติในช่วงฝากครรภ์จนถึงคลอด ส่วนพยาบาลวิชาชีพหลังคลอด
จะรับผิดชอบดูแลมารดาหลังคลอดทุกราย และเภสัชกรจะช่วยตอบคำถามเรื่องยา ทุกช่วงของการฝากครรภ์และ
หลังคลอด
6. เชิญชวนให้หญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในไลน์ Open chat เพิ่ม QR code MCH WATCHAN และค้นหาหญิง
ตั้งครรภ์รายใหม่ ที่มาฝากครรภ์ที่คลินิกฝากครรภ์ทุกวันอังคาร จากนั้นให้หญิงตั้งครรภ์ถ่ายรูปข้อมูลในสมุดสีชมพู
ประกอบด้วย 1.หน้าปก เพื่อดูชื่อ-นามสกุลจริง, HN และ note ความเสี่ยงที่ติดไว้ 2.รองหน้าปก ดูที่อยู่และ
เบอร์โทรศัพท์ เพื่อประเมินระยะทางที่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล และโทรศัพท์ติดต่อหญิงตั้งครรภ์ในกรณีที่ติดต่อ
ทางไลน์ไม่ได้ รวมทั้งกรณีฉุกเฉิน 3.ประวัติสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และครอบครัว เพื่อดูประวัติการตั้งครรภ์ และ
รายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด เช่น เคยแท้งมาก่อน, อายุครรภ์, เคยคลอดครรภ์แฝด, วิธีการคลอด,
น้ำหนักเด็กที่คลอด และภาวะแทรกซ้อนของมารดาและบุตรหลังคลอด รวมทั้งดูประวัติการเจ็บป่วยของหญิง
ตั้งครรภ์ 4.ประวัติของหญิงตั้งครรภ์ปัจจุบัน เพื่อดูผลทางห้องปฏิบัติการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ประกอบการให้
คำแนะนำในเรื่องของยาแลอื่นๆ 5.บันทึกการตรวจครรภ์ทุกหน้า เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการประเมินหญิงตั้งครรภ์
