Page 282 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 282

G23


                                    การศึกษาประสิทธิภาพการเยี่ยมบ้านที่เน้นการจัดสิ่งแวดล้อม

                                           เพื่อป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุจังหวัดสุรินทร์
                            (A study of the effectiveness of home visiting that focuses on providing

                                an environment to Prevent falls  in the elderly in Surin Province)

                                                             เฉลิมศรี ยิ่งยงยุทธ ,กมลรัตน์ สุขแสวง  ,วริษฐา นนทบท
                                                                            1
                                                                                                            3
                                                                                             2
                                                                      1,3 กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลสุรินทร์
                                                                 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เขตสุขภาพที่ 9
                                                                                               ประเภทวิชาการ




                  1. ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 10

                  และคาดการณ์ว่าจะสูงถึงร้อยละ 20 ในปี พ.ศ. 2568 การหกล้มของผู้สูงอายุ เป็นปัญหาสาธารณสุขที่พบ

                  มากขึ้นทำให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตได้  ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มในปี พ.ศ. 2555
                  ประมาณ 40,000 ราย ความชุกของการพลัดตกหกล้มรวมภายใน 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นร้อยละ 18.5

                  อุบัติการณ์จะเริ่มเพิ่มขึ้นในวัยกลางคน และสูงที่สุดเมื่ออายุมากกว่า 80 ปี โดยเพศหญิงมีการพลัดตกหกล้มสูง
                  กว่าเพศชาย 1.5 เท่า การบาดเจ็บภายหลังการพลัดตกหกล้ม มีตั้งแต่แผลถลอก จนถึงขั้นรุนแรงและเสียชีวิตได้

                  ความรุนแรงของการล้มเกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น และพบว่าค่าใช้จ่ายของระบบบริการในผู้สูงอายุที่พลัดตก
                  หกล้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน และสังคมทั้งค่าใช้จ่ายทางตรงและ

                  ทางอ้อม การหกล้มในผู้สูงอายุเกิดจากความเสื่อมในหลายระบบของร่างกาย เช่น ประสาทการทรงตัว
                   การมองเห็น กระดูกและข้อ กล้ามเนื้อ การทำงานของ cognitive หรือ โรคที่ทำให้มีอาการอ่อนแรง อ่อนเพลีย
                  วิงเวียนศีรษะ เดินเซ ตัวสั่น หรือหมดสติ การที่ผู้สูงอายุได้รับยาหลายชนิด อายุที่มากขึ้น การมีประวัติเคยหกล้ม
                  มาก่อน จะเพิ่มความเสี่ยงของการหกล้ม และพบว่าปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการหกล้มเกิดจาก พื้นลื่น
                  พื้นผิวขรุขระ ของใช้รก พื้นมีขั้นสูงต่ำ สะดุดขอบพรม แสงสว่างไม่เพียงพอ มีการศึกษาถึงการป้องกัน

                  การหกล้มก่อนหน้า แบ่งออกเป็น โปรแกรมการประเมินและจัดการความเสี่ยงของการหกล้มแบบพหุปัจจัย
                  (multifactorial fall risk assessment and management program) การออกกำลังกาย (exercise)
                  การปรับสิ่งแวดล้อม (environmental modification) และโปรแกรมการให้ความรู้ (education program)

                  พบว่าการประเมินและจัดการความเสี่ยงของการหกล้มแบบพหุปัจจัย และโปรแกรมการออกกำลังกายได้ผล

                  ในการป้องกันการหกล้ม ในการปรับสิ่งแวดล้อมมีทั้งศึกษาที่รายงานว่าได้ประโยชน์ และบางการศึกษาไม่มี
                  หลักฐานที่ชัดเจนว่าได้ประโยชน์ ส่วนการให้ความรู้ไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนว่าได้ประโยชน์

                         ในบริบทของจังหวัดสุรินทร์พบว่าผู้สูงอายุที่หกล้ม ส่วนใหญ่เกิดจากการลื่นล้มในบ้าน หรือบริเวณ
                  รอบบ้าน และมักเป็นผู้สูงอายุที่ไม่เคยได้รับการเยี่ยมบ้านโดยหน่วยบริการปฐมภูมิมาก่อน การเยี่ยมบ้านที่เน้น

                  การจัดสิ่งแวดล้อมจึงน่าจะช่วยลดอุบัติการณ์การล้มในผู้สูงอายุได้

                  2. วัตถุประสงค์การศึกษา
                         1) เพื่อศึกษาผลของการเยี่ยมบ้านที่มีต่ออัตราการหกล้มในผู้สูงอายุ
                         2) เพื่อเปรียบเทียบอัตราการหกล้มในผู้สูงอายุกลุ่มที่ได้รับการเยี่ยมบ้าน กับกลุ่มที่ได้รับการดูแลตาม
                  มาตรฐานเดิม คือไม่ได้รับการเยี่ยมบ้าน
   277   278   279   280   281   282   283   284   285   286   287