Page 421 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 421

K54


                  2. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและญาติ มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบการไหลเวียนของเลือดที่มีผล
                  ต่อภาวะสุขภาพ อยู่ในระดับสูง มากกว่าร้อยละ 80
                  3. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและญาติ พฤติกรรมสุขภาพ ลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อยู่

                  ในระดับ มากกว่า ร้อยละ 60
                  4. เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีความพึงพอใจในการใช้ Blood system Model มากกว่า ร้อยละ 80

                  วิธีการศึกษา
                         การศึกษานี้เป็นศึกษาแบบกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียววัดก่อนหลัง โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง
                  แบบเจาะจง (purposive sampling) จำนวน 30 คน เป็นผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและญาติที่มารับบริการ

                  ที่โรงพยาบาลยะลา ตั้งแต่ มีนาคม-สิงหาคม 2566 โดยจัดกิจกรรมให้สุขศึกษา ใช้เวลา 20 นาที อธิบายเนื้อหา
                  เกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง
                  พร้อม ใช้  นวัตกรรม “Blood System Model” ประกอบการสอน นักวิชาการสาธารณสุขจะทำการประเมิน
                  ความรู้ความเข้าใจและประเมินพฤติกรรมสุขภาพ โดยเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการได้รับกระบวนการ

                  ให้สุขศึกษาโดยใช้นวัตกรรม นอกจากนี้ยังมีการประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง
                  ด้วยสถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ ความถี่และร้อยละ

                  ขั้นตอนการดำเนินงาน
                         1. ขั้นเตรียมการ ได้แก่ ศึกษาข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย, ประเมินความรู้ความเข้าใจและพฤติกรรม
                  สุขภาพ วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุผู้ป่วยที่ยังมีพฤติกรรมไม่ถูกต้องร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาระบบการดูแล

                  ผู้ป่วยเบาหวานและโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลยะลา และประชุมในหน่วยงานเพื่อระดมสมอง คิดค้น
                  นวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถใช้ในการให้สุขศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
                         2. ขั้นตอนการผลิดนวัตกรรม “Blood System Model” ได้แก่ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ เช่น สายยาง

                  สำลี ขวดน้ำ สายดำรัดขวดน้ำ ลูกสูบยางแดง กระดาษ A4 ฟิลเจอร์บอร์ด และ Syring ประดิษฐ์นวัตกรรม
                  ดังภาพ








                          3. ทดลองใช้นวัตกรรม เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นและเหมาะสมกับการใช้งาน
                          4. นำนวัตกรรมไปใช้ในการให้สุขศึกษาแก่ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มารับบริการที่โรงพยาบาลยะลา
                  ทั้งที่ตึกผู้ป่วยใน หน้าห้องตรวจผู้ป่วยนอก คลินิกเบาหวานและคลินิกความดันโลหิตสูง
                          5. ประเมินประสิทธิผลของ “Blood System Model” โดยเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจและ

                  พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ก่อนและหลังใช้นวัตกรรม
                          6. ประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย ญาติและเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งาน
   416   417   418   419   420   421   422   423   424   425   426