Page 417 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 417

K50


                             ชาวมลายูกาบูกับ “ปัญหาการกินยา” เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!!!


                                                                                         เภสัชกรหญิงรอนี กาเดร์

                                                                     โรงพยาบาลรามัน จังหวัดยะลา เขตสุขภาพที่ 12
                                                                                      ประเภทผลงานทางวิชาการ


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย

                         จากการสำรวจข้อมูลการใช้ยาของผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรงพยาบาลรามัน ในปี 2560 มีผู้ป่วยที่รับประทาน
                  ยาไม่ถูกต้องคิดเป็นร้อยละ 70.25 โดยใช้ยาไม่ถูกต้องเกี่ยวกับจำนวนเม็ดต่อครั้งคิดเป็นร้อยละ 37.33
                  เกี่ยวกับจำนวนความถี่ต่อวันคิดเป็นร้อยละ 25.52 เกี่ยวกับเวลาที่รับประทานคิดเป็นร้อยละ 20.05 และ

                  เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับมื้ออาหารคิดเป็นร้อยละ 17.10 จากการรับประทานยาไม่ถูกต้องข้างต้นส่งผลให้เกิด
                  ปัญหาผู้ป่วยมีความร่วมมือในการใช้ยา (adherence) ต่ำมากเพียงแค่ร้อยละ 25.85 เท่านั้น โดยความร่วมมือ
                  ในการใช้ยาระดับพื้นที่โรงพยาบาลรามันมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่องค์การอมัยโลกได้กำหนดไว้อย่าง
                  มาก จึงส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วย สังคม และประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาวะโรคมีความรุนแรง

                  เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง พิการและ
                  ทุพลภาพ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าสาเหตุของปัญหามาจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 1) ไม่มีความรู้เกี่ยวกับยาของ
                  ตนเอง เนื่องจากไม่สามารถพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้ ไม่สามารถอ่านฉลากยาได้ 2) ไม่มีนวัตกรรมหรือ
                  เครื่องมือช่วยในการรับประทานยา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อ่านฉลากยาไม่ได้ ไม่เข้าใจฉลากยา หรือผู้สูงอายุ

                  เนื่องจากบนฉลากยาจะอธิบายวิธีการรับประทานยาในรูปแบบตัวอักษรเท่านั้น 3) ไม่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ
                  ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้โอกาสเสี่ยง ความรุนแรง อุปสรรค และประโยชน์ เนื่องจากความรอบรู้ทางสุขภาพ
                  เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ต่อความร่วมมือในการรับประทานยา 4) ไม่มีระบบการติดตามอย่างต่อเนื่อง
                  หลังจากผู้ป่วยมาโรงพยาบาลในแต่ละครั้งส่งผลให้ผู้ป่วยขาดนัด เกิดปัญหาจากการใช้ยา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

                  อยู่ลำพัง หรือ อ่านหนังสือไม่ได้

                  วัตถุประสงค์การศึกษา
                         เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังรับประทานยาได้ถูกต้องตามแพทย์สั่ง โดยการเพิ่มความร่วมมือในการใช้ยา
                  (adherence) ของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ≥ ร้อยละ 80 ซึ่งได้กำหนดปัจจัยแห่งความสำเร็จและความท้าทาย
                  4 ประการดังนี้ 1) ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้เกี่ยวกับยาของตนเอง ≥ ร้อยละ 80 2) มีนวัตกรรมหรือเครื่องมือ

                  ช่วยในการรับประทานยาอย่างน้อย 1 นวัตกรรม 3) ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมีความรอบรู้ด้านสุขภาพระดับสูง
                  ≥ ร้อยละ 80 4) อัตราผู้ป่วยโรคเรื้อรังมาตรวจตามนัด ≥ ร้อยละ 90

                  วิธีการศึกษา
                         การพัฒนาช่วงที่ 1 ปี พ.ศ.2561 1) ประชุมทีมสหวิชาชีพและตัวแทนภาคีเครือข่าย เพื่อชี้แจงปัญหา
                  brainstorm ทบทวนวรรณกรรม และหาแนวคิดในการแก้ไขปัญหา 2) จัดกิจกรรม “หมออยากเล่า ผู้ป่วย

                  อยากฟัง” โดยเป็นกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ป่วยอยากรู้ เป็นภาษาท้องถิ่น (มลายู) ซึ่งใช้เวลาในช่วง
                  ที่ผู้ป่วยต้องรอตรวจ 3) คิดนวัตกรรมที่เป็นเครื่องมือช่วยในการรับประทานยาของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
                  โดยได้มีการนำรูปทรงต่าง ๆ ที่คล้ายกับเม็ดยา มาแสดงบนฉลากยาร่วมกับฉลากยาข้อความที่มีอยู่เดิม จึงได้มี

                  การจัดทำตราปั้มยางรูปทรงต่าง ๆ เช่น วงกลม ครึ่งวงกลม หนึ่งส่วนสี่ของวงกลม รูปดาว และแก้วน้ำ
                  ซึ่งรูปทรงดังกล่าวสามารถมองเห็นได้ง่าย เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน 4) เภสัชกรสอนการรับประทานยาหรือให้ข้อมูล
   412   413   414   415   416   417   418   419   420   421   422