Page 459 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 459
L36
แผ่นแปะสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อยเพื่อจัดบริการให้กับผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง
ในคลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
นางสาววีรวรรณา บุญญานุวัตร และนางสาวนาซีเราะ มะนา
โรงพยาบาลยะลา จังหวัดยะลา เขตสุขภาพที่ 12
ประเภท วิชาการ
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในทางเวชปฏิบัติ ซึ่งทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงานหรือประกอบ
กิจวัตรประจำวัน การดูแลผู้ป่วยหลังด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย สามารถช่วยทุเลาปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหว
ของหลังและข้อไหล่ดังกล่าวได้มาก ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงนำแผ่นแปะสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อย
ในผู้ป่วยปวดหลัง ซึ่งเป็นวิธีการดูแลที่มีความปลอดภัยสูง เป็นการอนุรักษ์และพัฒนาแพทย์แผนไทยให้ดำรงอยู่
จากสถิติข้อมูลผู้ป่วยนอกได้รับบริการแพทย์แผนไทย ปี 2563 จาก H0S XP ในโรงพยาบาลศูนย์ยะลา จำนวน
1,568 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน เนื่องจากอาชีพหลักของคนในพื้นที่ คือ เกษตรกรรม สาเหตุอาจเกิดจาก
ลักษณะอาชีพ ท่าทำงานที่ไม่ถูกต้อง ทำงานหนักเกินกำลัง และอยู่ในอิริยาบถเดียวนาน ๆ ส่งผลให้มีอาการ
ปวดกล้ามเนื้อและวิธีบรรเทาปวด เช่น ทานยา นวด ฝังเข็ม แต่ผู้ป่วยบางคนไม่ชอบยา ไม่สะดวกนวดหรือ
ประคบสมุนไพรเนื่องจากใช้เวลานาน จึงคันคว้า แผ่นแปะบรรเทาปวด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการให้คำแนะนำ
แก่ผู้รับบริการนำไปใช้ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพ การทำงานและการดำเนินชีวิตต่อไป
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อศึกษาประสิทธิผลแผ่นแปะสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อยเพื่อจัดบริการให้กับผู้ป่วยที่มีอาการ
ปวดหลังในคลินิกแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
2. เพื่อศึกษาความรู้สึกปวดและอาการปวดหลัง งานแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาล
ศูนย์ยะลาในกลุ่มทดลองหลังใช้แผ่นแปะสมุนไพรลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุมหลังการติดตามอาการโดยไม่ใช้
แผ่นแปะสมุนไพร
วิธีการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) มีการวัดผลก่อน
และหลังการทดลอง
ประชากรที่ศึกษา : ผู้มารับบริการคลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการศึกษา
1. ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ
2. การประเมินตามแบบวัดความรู้สึกปวด (VAS) และแบบประเมินอาการปวดหลัง (Modified
Oswestry Low Back Pain Disability Questionnaire) ก่อนและหลังการใช้แผ่นแปะสมุนไพร โดยใช้สถิติ
Paired sample t-test
3. เปรียบเทียบการประเมินการประเมินตามแบบวัดความรู้สึกปวด (VAS) และแบบประเมินอาการ
ปวดหลัง (Modified Oswestry Low Back Pain Disability Questionnaire) หลังการใช้แผ่นแปะสมุนไพร
และหลังการติดตามอาการ ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยใช้สถิติ Independent t- test