Page 540 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 540
O15
อาการของโรคที่สลับซับซ้อน มีความพิการหลงเหลือ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจ า
วันที่เคยท าได้ตามปกติ ผู้ป่วยต้องพึ่งพาผู้อื่นในการดูแลกิจวัตรประจ าวัน (Naruse, Sakai, Matsumoto &
Nagata, 2015) ซึ่งหากผู้ป่วยโรค NCDs ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องต่อเนื่อง จะก่อให้เกิด
ภาวะแทรกซ้อนในหลายระบบของร่างกาย ทั้งภาวะแทรกซ้อนแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรังท าให้ภาวะโรค
รุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองลดลง เกิดภาวะเจ็บป่วยต้องนอนติดบ้าน ติดเตียง ตาม
ด้วยความพิการและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ณิสาชล นาคกุล, 2559) และส่งผลต่อด้านเศรษฐกิจของครอบครัว
อีกด้วยเนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยท างาน ท าให้ขาดรายได้ ครอบครัวมีภาระเพิ่มมากขึ้นในด้านค่าใช้จ่าย
ในการรักษาพยาบาล ระยะเวลานอนโรงพยาบาลนานขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มมากขึ้น (Tas, Verhagen,
Bierma-Zeinstra, Odding & Koes, 2007)
โรค NCDs เกิดจากพฤติกรรมการด าเนินชีวิต ซึ่งการด าเนินของโรคเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ สะสมอาการ
อย่างค่อยเป็นค่อยไป หากไม่ดูแลตนเองหรือควบคุมพฤติกรรมสุขภาพจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรค
ได้ทั้งอาการวิกฤตเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น อาจเกิดภาวะหลอดเลือดสมองปริแตกแทรกซ้อน ท าให้เกิดความ
พิการเป็นอัมพาตช่วยเหลือตนเองไม่ได้อยู่ในภาวะพึ่งพิงสูญเสียพลังอ านาจในตนเอง ซึ่งในผู้ป่วยโรค NCDs
พบอุบัติการณ์ภาวะซึมเศร้าสูงถึงร้อยละ 30.2 เนื่องจากภาวะซึมเศร้าความสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดสมองใน
ผู้ป่วยโรค NCDs อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (Duangnate, 2021) ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจึงให้ความส าคัญกับ
การจัดการโรค NCDs โดยองค์การอนามัยโลกก าหนดยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและควบคุมโรค NCDs และ
แผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค NCDs พ.ศ. 2556-2563 และพัฒนาแผนงานส าหรับ
การน าไปปฏิบัติ พ.ศ. 2566-2573 (DEVELOPMENT OF AN IMPLEMENTATION ROADMAP 2023–2030
FOR THE GLOBAL ACTION PLAN FOR THE PREVENTION AND CONTROL OF NCDS 2013–2030) โดย
ก าหนดเป้าหมาย 9 ข้อ ดังนี้ (1) อัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ลดลงร้อยละ 25 (2)
การบริโภคแอลกอฮอล์ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อหัวของประชากรต่อปี ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 10
(3) ความชุกของประชากรที่กิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ลดลงร้อยละ 10 (4) ค่าเฉลี่ยปริมาณการบริโภคเกลือ/
โซเดียมในประชากร ลดลงร้อยละ 30 (5) ความชุกของการบริโภคยาสูบในประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
ลดลงร้อยละ 30 (6) ความชุกของผู้มีความดันโลหิตสูง ลดลงร้อยละ 25 หรือควบคุมความชุกให้อยู่ในระดับเดิม
ตาม (7) ความชุกของผู้ป่วยเบาหวานและโรคอ้วนไม่เพิ่มขึ้น (8) ประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงได้รับยาและบริการ
ค าปรึกษาเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และ (9) มีเทคโนโลยีพื้นฐานและยาที่
จ าเป็นส าหรับการรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ส าคัญ ทั้งในสถานบริการของรัฐและเอกชน ร้อยละ 80 (World
Health Organization, 2013; 2021) จุดเน้นส าคัญของการด าเนินงานโรค NCDs ของทุกประเทศอยู่ที่ความ
ร่วมมือระหวางภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการน านโยบายและแผนงานสู่การปฏิบัติระหว่าง
หน่วยงานภาครัฐ การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มแข็งและจริงจัง
รวมทั้งการก ากับติดตามการด าเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
ประเทศไทยน ายุทธศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกดังกล่าว ก าหนดแผนปฏิบัติการด้านการป้องกัน
ควบคุมโรคและภัยสุขภาพของประเทศ ปัจจุบันระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) เป้าหมายคือ “ประชาชนมี
สุขภาพดีโดยการลดการป่วย ลดการเสียชีวิตจากโรคและภัยสุขภาพที่่ป้องกันได้่ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค