Page 643 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 643
Q29
การพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด
โรงพยาบาลโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
นางมยุรี ดวงแสนโว และ Sepsis care team
โรงพยาบาลโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เขตสุขภาพที่ 7
ประเภท วิขาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยทั่วโลก รายงานสถิติองค์การอนามัยโลกพบ
การ เสียชีวิตจาก Sepsis ประมาณ 5,760 ล้านคน และมีผู้ป่วยมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี และยังพบว่ามี
อุบัติการณ์ของการติดเชื้อมีแนวโน้มสูงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดทุพพลภาพรวมถึงมีอัตราการตายที่สูงมาก ประเทศไทย
พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากSepsis ในปี 2562-2565 พบร้อยละ21.0 ,18.36, 19.01 และ 20.09 ตามลำดับ
และพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากSevere sepsis ในปี 2562- 2565 พบร้อยละ 32.81 , 31.91, 34.09 และ
35.35 ตามลำดับ (กระทรวงสาธารณสุข, 2565) และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตลำดับที่ 2 ของอัตราการ
เสียชีวิตของประชากร ปัจจุบันถึงจะมีความก้าวหน้าในการรักษาและเทคโนโลยี แต่อัตราตายของ Sepsis
ยังคงสูง ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง เกิดขึ้นใน
กระบวนการดูแลรักษาที่ล่าช้า การประเมินเฝ้าระวังอาการ เปลี่ยนแปลงไม่เป็นตามมาตรฐาน
โรงพยาบาลโกสุมพิสัยได้เริ่มพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วย Sepsis มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะการทำงานการดูแลป้องกันผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ในรูปแบบคณะกรรมการทีม Sepsis มีการ
ประสานงานร่วมกันระหว่างทีม PCT ทีม Sepsis และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เครือข่าย 20 แห่งใน อ.โกสุมพิสัย
พัฒนาระบบการเข้าถึงบริการ โดยเพิ่มศักยภาพของบุคลาการในการดูแลและคัดกรองเบื้องต้นวางระบบ fast
track ในการเข้ารับบริการตาม Sepsis guideline ของเครือข่ายจังหวัดมหาสารคาม นำCPG ของเครือข่าย
มาปรับปรุงเข้ากับบริบทของโรงพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยภาวะ Sepsis และ Septic Shock โดยมุ่งเน้น Early
goal therapy นำ SIRS criteria มาช่วยในการวินิจฉัย Sepsis เพื่อการส่งตรวจ investigate ที่เหมาะสม
และรวดเร็ว กำหนดระยะเวลาในการส่งตรวจและรอผล Lab จากการทบทวนการดูแลผู้ป่วย Sepsis ปี 2562
- 2564 พบว่าอัตราSepsis และอัตราการเสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการวิเคราะห์กระบวนการการรักษา
ตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วย Sepsis พบว่าผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยภายใน 1 ชั่วโมง, การปฏิบัติตาม CPG ,การ
ทำ H/C ก่อนให้ยาปฏิชีวนะ, การให้ยาปฏิชีวนะภายใน 1 ชั่วโมงหลัง การวินิจฉัย, การให้สารน้ำ 30 ml/kg/hr.
ขาดการประเมินซ้ำในเวลาที่เหมาะสม และยังไม่บรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ผู้วิจัยจึงได้พัฒนาคุณภาพ
การดูแลรักษาผู้ป่วยภาวะ Sepsis นี้ขึ้น เพื่อพัฒนาระบบการดูแลรักษาให้สามารถตอบสนองต่อการ
เปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยที่ต้องให้การรักษาในภาวะเร่งด่วน มุ่งเน้นความปลอดภัย และผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษา
อย่างรวดเร็ว ทันเวลา โดยมีกระบวนการดูแลตามมาตรฐานวิชาชีพ