Page 89 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 89

B19

                  วิธีการศึกษา

                         1. รูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and development) เพื่อพัฒนารูปแบบ
                  การคัดกรองและส่งต่อเข้าช่องทางด่วนสำหรับกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้และศึกษาผลลัพธ์ของการพัฒนา
                  รูปแบบเพื่อนำไปปรับใช้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองโรคการวินิจฉัยโรคและการสร้างการมีส่วนร่วม

                  ของเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อเฝ้าระวังโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
                         2. การกำหนดตัวอย่าง คัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive random sampling) ในกลุ่มเสี่ยงมะเร็ง

                  ลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงอายุ 50-70 ปีที่มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลเมืองสองพี่น้องและมีการส่งข้อมูลผลตรวจ
                  มะเร็งลำไส้ผ่านระบบ Line official account ทั้งผลบวกและผลลบจำนวน 200 คนระยะเวลาที่ศึกษาระหว่าง
                  เดือนกรกฎาคม 2566 ถึงเดือน กันยายน พ.ศ. 2566

                         3. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลนำมาสู่การวิจัยดังนี้
                                3.1 วิเคราะห์ข้อมูลจากการประชุมระดมสมองเกี่ยวการคัดกรองและส่งต่อข้อมูลด้วยระบบ
                  Line official account กำหนดช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยที่มีผลการคัดกรองมะเร็งลำไส้ด้วยวิธี Fit test เป็น

                  บวกโดยมีการสอบถามถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไขแล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์เนื้อหา (Content
                  Analysis)
                                3.2 วิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองใช้รูปแบบการคัดกรองและส่งต่อเข้าช่องทางด่วนของกลุ่ม

                  เสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงจำนวน 200 คนดังนี้
                                        3.2.1 เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของความรู้ความสามารถของเครือข่าย

                  อาสาสมัครสาธารณสุขในการคัดกรองและส่งต่อเข้าช่องทางด่วนกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ก่อนและหลังเข้าร่วม
                  โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ Paired-t-test จำแนกเป็นรายข้อรายด้านและ
                  โดยรวม

                                        3.2.2 วิเคราะห์ความคิดเห็นประชากรกลุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบ
                  การคัดกรองและส่งต่อเข้าช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้โดยใช้ความถี่ร้อยละและค่าเฉลี่ยและส่วน

                  เบี่ยงเบนมาตรฐาน
                                        3.2.3 ประเมินผลระยะเวลาที่ใช้ในการคัดกรองและส่งต่อเข้าช่องทางด่วนสำหรับ
                  ผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้โดยใช้ความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

                  ผลการศึกษา

                         จากการดำเนินการจัดตั้งระบบ Line official account ชื่อ”กลุ่มคัดกรองมะเร็ง sk 17”  มีจำนวน
                  สมาชิก 251 คน เพศชาย 22 คน คิดเป็นร้อยละ 12.2 เพศหญิง 223 คนคิดเป็นร้อยละ 88.8 อายุระหว่าง 35-
                  55 ปี มีสถานะเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกระบบ Line official account จำนวน  20 คน

                  คิดเป็นร้อยละ 13.79 การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงของประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 50-70 ปี
                  เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้องโดยวิธีเจาะจงตามรายชื่อเป้าหมายที่ยังไม่เคยตรวจคัดกรองด้วยวิธี ในรอบ 2 ปี

                  ย้อนหลังโดยให้ความรู้เรื่องโรคมะเร็งลำไส้ การใช้ชุดตรวจคัดกรอง วิธีการเก็บตัวอย่างอุจจาระ การอ่านผล
                  ตรวจและวิธีการส่งผลการตรวจผ่านระบบ Line official account กับอาสาสมัครสาธารณสุขจำนวน 145 คน
                  โดยกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขในระบบระบบ Line official account สามารถแจ้งผลการตรวจ

                  คัดกรองและโต้ตอบซักถามปัญหาการนัดหมายเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยวิธีส่องกล้อง
                  (colonoscopy) กับคลินิกศัลกรรมได้โดยตรง มีการส่งผลการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ทั้งหมด 200 คนมี

                  ผลบวก 17 คนคิดเป็นร้อยละ 8.5 ผลลบจำนวน 183 คนคิดเป็นร้อยละ 91.5 ในกลุ่มเป้าหมายที่คัดกรอง
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94