Page 229 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 229
E38
ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนที่เพิ่มขึ้น เกิดความพึงพอใจในการทำงาน (Vroom, 1964) ภายใต้แนว
ปฏิบัติร่วมกัน
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวชแบบมีส่วนร่วมในชุมชน
2. เพื่อศึกษาผลของการพัฒนาแนวปฏิบัติการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวชแบบมีส่วนร่วมในชุมชน
2.1 ผู้ให้บริการ
2.1.1 เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน สำหรับพยาบาล
ก่อนและหลัง
2.1.2 เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยจิตเวชสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชนก่อน
และหลัง
2.1.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติฯของพยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชน
ภายหลังการพัฒนาแนวปฏิบัติฯ
2.2 ผู้รับบริการ
2.2.1 เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยจิตเวชสำหรับญาติผู้ป่วยจิตเวชก่อนและหลัง
2.2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติฯ ของพยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชน
หลังการพัฒนาแนวปฏิบัติฯ
2.2.3 เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง ก่อนและหลัง
วิธีการศึกษา
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยใช้กรอบแนวคิดการพัฒนา
คุณภาพอย่างต่อเนื่อง (Deming, 2000) ตามขั้นตอน คือ 1) การวางแผน (Plan) ศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหา
ทบทวนตำรา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2559. 2563) (Cohen & Uphoff, 1980)
(Vroom, 1964) 2) ปฏิบัติ (Do) พัฒนาแนวปฏิบัติฯ ออกแบบการบันทึกการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวช และจัด
ประชุมให้ความรู้ 3) ตรวจสอบ (Check) นิเทศติดตามผลลัพธ์ และ 4) การแก้ไขปัญหา (Act) สรุปผลเพื่อ
ปรับปรุงแก้ไข เพิ่มภาคีเครือข่ายและขยายผลต่อยอดในชุมชนเมืองชลบุรี
กลุ่มตัวอย่าง ที่คัดเลือกใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ผู้ให้บริการ คือ 1.1 พยาบาล
จำนวน 8 คน 1.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องในชุมชนจำนวน 50 คน ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบใกล้เคียงกับผู้รับบริการและใน
เขตพื้นที่รับผิดชอบของ ศสม.รวม 7 พื้นที่เฉลี่ยพื้นที่ละ 6 คน 2) ผู้รับบริการ คือ ญาติผู้ป่วยจิตเวช และผู้ป่วย
จิตเวชจำนวน 15 คน คำนวณจากการเปิดตารางสำเร็จรูปแบบทางเดียว (Munro, 2001) โดยกำหนดระดับ
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 Power of test ที่ 0.60 และขนาด Effect size เท่ากับ 0.80 เพื่อป้องกัน
ข้อมูลขาดหาย จึงกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างเพิ่มอีก 20%
เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินความรู้เกี่ยวการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวชสำหรับพยาบาล แบบประเมิน
ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและแบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติฯ สถิติที่ใช้ในการ
วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Wilcoxon Signed Rank test สถิติ
Paired samples t-test และ One sample t- test
ผลการศึกษา