Page 289 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 289
G1
การพัฒนาโปรแกรมการฝึกสติแบบสั้นเพื่อชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3
ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
*
*
**
รัชชา มีศิลป์ ,อารมณ์ ปิ่นเพ็ชร์ ,ปรัชพร กลีบประทุม
*
**
กลุ่มงานเวชกรรมสังคม ,กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลอ่างทอง
จังหวัดอ่างทอง เขตบริการสุขภาพที่ 4
ประเภทวิชาการ
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประสิทธิผลของโปรแกรมการฝึกสติแบบสั้นเพื่อการ
ชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 ในคลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรงพยาบาลอ่างทอง 2 จังหวัด
อ่างทอง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ระยะที่ 3 ที่มีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ทั้งสิ้น
40 ราย เก็บรวบรวมข้อมูล 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ก่อนการทดลองในสัปดาห์ที่ 1 และหลังการทดลองในสัปดาห์ที่
12 โดยใช้แบบประเมินพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง และแบบบันทึกผลการตรวจร่างกาย
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
ทดสอบความแตกต่างด้วยสถิติ Paired t-test
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง มีการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมในการดูแลตนเอง น้ำหนัก เส้นรอบเอว
ดัชนีมวลกาย และผลลัพธ์ทางคลินิก eGFR ภายหลังการทดลอง ดีกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทาง
สถิติ (p-value <0.001) ภายหลังเสร็จสิ้นการทดลองในสัปดาห์ที่ 12 พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีอัตราการกรองของ
ไต (eGFR) ที่สามารถชะลอการเสื่อมของไตได้ จำนวน 37 คน (ร้อยละ 92.5)
สรุปว่า โปรแกรมการฝึกสติแบบสั้นเพื่อชะลอไตเสื่อม มีประสิทธิผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สุขภาพที่เหมาะสม สามารถชะลออาการรุนแรงของโรคไตเรื้อรังและลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆจากโรคได้
คำสำคัญ: โปรแกรมการฝึกสติแบบสั้น/ โรคไตเรื้อรังระยะที่ 3/ การชะลอไตเสื่อม
*Corresponding author: นางรัชชา มีศิลป์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ E-mail: ratchaang3@gmail.com มือถือ 081-9487025
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรังตั้งแต่ระยะที่3 ขึ้นไป
ประมาณ 1.9 และ 1.6 เท่า (สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค,2559) จากข้อมูลโรคเรื้อรังของสำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของอำเภอเมืองอ่างทอง ที่มี
ค่าอัตราการกรองของไต (GFR) ลดลง มากกว่าร้อยละ 4 ส่วนใหญ่จะเป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 อีกทั้งผลของ
การตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อน ประจำปี 2566 ของ รพ.อ่างทอง 2 พบผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 จำนวน
120 ราย จากระบบการให้คำปรึกษาที่ผ่านมาโดยพยาบาลวิชาชีพ ในการให้คำแนะนำแบบสั้น (Brief Advice)
เรื่องพฤติกรรมการดูแลตนเอง พร้อมกับเอกสารแนวทางการดูแลตนเอง ติดในสมุดประจำตัว ที่จุดนัดหน้าห้อง
ตรวจ ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาและจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก ทำให้ระบบการให้คำปรึกษายังทำได้ไม่เต็มที่
ผู้ป่วยยังคงมีการรับรู้เรื่องการปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง มีความเครียด วิตกกังวล และแสวงหาช่องทางการรักษาที่ไม่
ถูกต้อง เช่นการใช้ยาสมุนไพร อาหารเสริมและยาล้างไต
ผู้วิจัยจึงมีความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงพัฒนารูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีภาวะไตเสื่อมระยะที่ 3 โดยการนำนวัตกรรมการฝึกสติแบบสั้น