Page 657 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 657
P34
การพัฒนารูปแบบบริการผู้ป่วยที่ได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่แบบวันเดียวกลับ
โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
นายแพทย์ถนอมศิลป์ ก้านมะลิ, สะคราญจิตร คงพันธ์ และคณะ
โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เขตสุขภาพที่ 7
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
1
กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายขับเคลื่อนพัฒนาระบบบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับมากว่า 5 ปี
เช่นเดียวกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ที่สมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2561 โดยจัดบริการตามโครงการจำนวน 17
หัตถการ สถิติการให้บริการ 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2563-2565) มีแนวโน้มลดลงแต่ผ่านเกณฑ์ คือดำเนินการได้
ร้อยละ 55.92, 48.61, และ 37.63 ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เป็นหัตถการหนึ่งของ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ตามโครงการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ
โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ 10 ราย คิดเป็น ร้อยละ 6 ต่อมาในปี 2564 และ 2565
2
จำนวนผู้ป่วยลดลงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เดิมให้บริการแบบ
ผู้ป่วยในโดยนัดหมายล่วงหน้า นอนโรงพยาบาลคืนก่อนผ่าตัด ดมยาสลบระหว่างผ่าตัด สังเกตอาการที่หอ
ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ใช้เวลานอนโรงพยาบาลมากกว่า 24 ชั่วโมงต่อการทำหัตถการแต่ละครั้ง ในปี 2566
หลังพ้นระยะแพร่ระบาดหนักของ COVID-19 ผู้ป่วยที่เข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยใน
เขตเมืองและรับส่งต่อจากโรงพยาบาลลูกข่ายในจังหวัดที่ผลการตรวจ Fittest positive คณะผู้วิจัยจึงได้นำ
แนวคิด LEAN มาพัฒนารูปแบบบริการผู้ป่วยที่ได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่แบบวันเดียวกลับ โดยหวัง
ผลให้เกิดระบบบริการที่รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอย ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดแออัด และเพิ่มความพึงพอใจ
ทั้งของผู้ให้และผู้รับบริการ
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อวิเคราะห์ระบบบริการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่แบบเดิม
2. เพื่อพัฒนารูปแบบบริการผู้ป่วยที่ได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่แบบวันเดียวกลับ รพ.กาฬสินธุ์
3. เพื่อนำรูปแบบบริการฯ ไปใช้และประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ได้แก่ (1) ผลลัพธ์การดำเนินการฯ
ตามตัวชี้วัด : เลื่อน/งดผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อน การติดเชื้อ และ Re-admit (2) ความพึงพอใจของผู้ป่วย
และผู้ให้บริการ (3) ค่าใช้จ่ายในการรักษา และ (4) ระยะเวลาการเข้ารับบริการ
4. เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบบริการฯ ที่พัฒนาขึ้น
วิธีการศึกษา
เป็นงานวิจัยและพัฒนา (Research and development) 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 วิเคราะห์ระบบบริการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ รพ.กาฬสินธุ์แบบเดิม และแนวทางการ
พัฒนา กลุ่มผู้ให้ข้อมูล เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากผู้เกี่ยวข้องกับการส่องกล้องตรวจ
ลำไส้ใหญ่ รพ.กาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 17 คน ได้แก่ ศัลยแพทย์ 7 คน, พยาบาลคัดกรอง
ที่ OPD/ห้องผ่าตัด/วิสัญญี/ห้องส่องกล้อง 10 คน เครื่องมือที่ใช้ : แนวทางการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับปัญหา
และแนวทางการให้บริการส่องกล้องตรวจลำไส้ วิเคราะห์ข้อมูล : วิเคราะห์เชิงเนื้อหา
3
ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบบริการฯ ตรวจสอบความเหมาะสม ความสอดคล้องของรูปแบบที่พัฒนา
โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ผลการประเมินความยากง่าย และความเป็นไปได้ของการใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้น