Page 673 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 673

P50

                                        Step bar hanging for Adenotonsillectomy


                                                                    ชาติชาย นินนานนท์,  สุกัญญา ยิ้มนวล และคณะ
                                                                    โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เขตสุขภาพที่ 9

                                                                               ประเภท  นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์


                  ความสำคัญของปัญหา
                         โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นสถาบันการแพทย์ระดับตติยภูมิที่มีอัตราการครองเตียง
                  เป็นอันดับ1ของกระทรวงสาธารณสุข ให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและเป็น

                  โรงพยาบาลแม่ข่ายการรับ - ส่งต่อ ในเขตสุขภาพที่ 9 และจังหวัดใกล้เคียงปีงบประมาณ 2563 – 2566
                  ห้องผ่าตัดหูคอจมูกให้บริการผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอดีนอยด์จำนวน 319 ราย โดย 60% ของผู้ป่วยเป็น
                  กลุ่มผู้ป่วยเด็กอายุ 2 – 15 ปี และ 40% เป็นกลุ่มผู้ป่วยอายุ 16 ปีขึ้นไป ในการทำผ่าตัดนั้นสิ่งสำคัญคือการจัด

                  ท่าผู้ป่วยถ่างเปิดช่องปาก ผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนจะมีทรวงอกที่ใหญ่ต้องปรับระดับของMayo stand ให้มีระดับ
                  ที่สูงขึ้นกว่าปกติ และในผู้ป่วยเด็กจะมีช่องปากที่แคบกว่าผู้ใหญ่จำเป็นต้องปรับระดับ Mayo stand ให้มีระดับ
                  ที่ต่ำลงมามากๆ เพื่อจะสามารถแขวน Tongue depressor ถ่างขยายช่องปากให้ผ่าตัดได้ ทั้งสองกรณีทำให้
                  Mayo stand กดส่วนของ Endotracheal tube ที่วางอยู่บนทรวงอกของผู้ป่วยเกิด Airway pressure สูงขึ้น
                  ประสิทธิภาพการดมยาระงับความรู้สึกลดลง มีการบาดเจ็บต่อทรวงอกและปอด จากปัญหาที่พบ ทีมพยาบาล

                  ห้องผ่าตัดหูคอจมูก จึงได้คิดประดิษฐ์เพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมี
                  ประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือระหว่างศัลยแพทย์หูคอจมูก พยาบาลห้องผ่าตัด และวิสัญญี

                  วัตถุประสงค์การศึกษา
                         เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการกดทับของ Endotracheal tube และการบาดเจ็บต่อทรวงอก

                  และปอดจากการจัดท่าเพื่อถ่างขยายช่องปากให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วย

                  วิธีการศึกษา
                         การศึกษาครั้งนี้เป็นการพัฒนานวัตกรรมทางการพยาบาลเพื่อใช้ในการผ่าตัดผู้ป่วยต่อมทอนซิล
                  และต่อมอะดีนอยด์  ประชากรที่ศึกษาได้แก่ผู้ป่วยเด็กเล็กอายุ 2-10 ปี และผู้ป่วยที่มี BMI ตั้งแต่ 25.0
                  ที่รับการผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์ที่ห้องผ่าตัดหูคอจมูก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

                  ศัลยแพทย์โสต นาสิก ลาลิงค์วิทยาจำนวน 10 คน  พยาบาลห้องผ่าตัดจำนวน 25 คน วิสัญญีแพทย์ จำนวน
                  5 คน วิสัญญีพยาบาลจำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบประเมินการเฝ้าระวังภาวะ
                  Airway pressure สูง และแบบประเมินความพึงพอใจของทีมผ่าตัด ใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ความถี่ค่าเฉลี่ย
                  และร้อยละ

                  ขั้นตอนการพัฒนา  ดำเนินการกิจกรรมโดยใช้หลักการ (PDCA) ดังนี้

                         1.  สำรวจศึกษาข้อมูลปัญหาอุปสรรคการดูแลผู้ป่วยผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์ในผู้ป่วย
                  เด็กเล็กและผู้ป่วยโรคอ้วน ระยะ 1 ปีที่ผ่านมา
                         2. ประชุมทีมผู้ทำการศึกษาเพื่อวิเคราะห์แนวทางการทำงาน มอบหมายหน้าที่

                         3. ประชุมทีมผู้ดูแลร่วมกับศัลยแพทย์โสต นาสิก ลาลิงค์วิทยาเสนอแนวทางการดูแลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
                  ร่วมกันปรับปรุงแนวทางในการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วย
   668   669   670   671   672   673   674   675   676   677   678