Page 668 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 668
P45
ตารางที่1 เปรียบเทียบรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ที่พัฒนา
แนวปฏิบัติ รูปแบบเดิม รูปแบบใหม่
1.แรกรับ ศัลยกรรมประสาท ศัลยกรรมหลอดเลือดสมอง
(Hemorrhagic stroke)
2.การดูแลรักษา 1.ทีมสหสาขามีส่วนร่วมในการดูแลเมื่อมี 1.CPG/Care map
การปรึกษาจากแพทย์เจ้าของไข้ 2.มีพยาบาลจบเฉพาะทางระบบประสาท
2.การพยาบาลขึ้นอยู่กับทักษะและความ วิทยาและศัลยศาสตร์
เชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล 3.แนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยศัลยกรรม
หลอดลือดสมอง
3.ขณะนอนรักษาใน
โรงพยาบาล
3.1การเฝ้าระวังอาการ ประเมินซ้ำไม่ได้ตามระยะเวลาที่ ประเมินซ้ำตามประเภทผู้ป่วย CPG/Care
เปลี่ยนแปลง เหมาะสม map
3.2 การป้องกัน ขาดการกำกับดูแลภาวะแทรกซ้อนอย่าง มีแนวทางปฏิบัติการป้องกันการเกิด
ภาวะแทรกซ้อน ต่อเนื่อง VAP/CAUTI/SSI/DVT/Bed sore/
4.การเตรียมจำหน่าย ได้รับสุขศึกษา ความรู้จากพยาบาลที่มี ได้รับความรู้ครบถ้วนตามหัวข้อกำหนด
ความเชี่ยวชาญและทักษะต่างกัน มีการประเมินผู้ดูแลทุกรายและมีการฝึก
ปฏิบัติตามแผนรายโรค
5.การดูแลต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่มีปัญหาซับซ้อนจะได้รับการส่ง ส่งต่อข้อมูลทุกรายในSmart COCและมี
ต่อข้อมูล การติดตามผู้ป่วยหลังจำหน่าย
2.ผลลัพธ์การใช้รูปแบบ
ข้อมูลทั่วไป
2.1 ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ป่วย กลุ่มก่อนพัฒนารูปแบบและกลุ่มหลังพัฒนา
รูปแบบ มีข้อมูลที่คล้ายคลึงกันในด้านเพศ สถานภาพสมรส โรคประจำตัว ค่าเฉลี่ยของอายุ
2.2 ความสามรถในการการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันวันก่อนจำหน่ายผู้ป่วยหลังพัฒนารูปแบบ
มีค่าเฉลี่ยความสามรถในการการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันมากกว่ากลุ่มพัฒนารูปแบบ
2.3 ภาวะแทรกซ้อน พบว่าก่อนใช้รูปแบบมีการติดเชื้อทางเดินหายใจ 2 ราย คิดเป็น ร้อยละ
6.6 การเกิดภาวะ Electrolyte Imbalance จำนวน 2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 6.3 ส่วนกลุ่มหลังพัฒนารูปแบบไม่
พบการเกิดการเกิดภาวะแทรกซ้อน
2.4 วันนอนในโรงพยาบาลและค่ารักษาพยาบาลก่อนพัฒนา มีค่าเฉลี่ยวันนอน15.06(S.D
=8.17) หลังพัฒนารูปแบบมีค่าเฉลี่ยวันนอน10.5(S.D =5.63) พบว่ากลุ่มหลังพัฒนารูปแบบมีค่าเฉลี่ยวันนอน
ลดลงนอนลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p=.028)ส่วนค่ารักษาพยาบาลกลุ่มก่อนพัฒนามีค่าเฉลี่ยการ
รักษาพยาบาล 148312.70บาท( S.D=130296.59)ส่วนกลุ่มหลังพัฒนารูปแบบค่าเฉลี่ยการรักษาพยาบาล
148312.70บาท ( S.D=66739.00) พบว่าทั้งสองกลุ่มมีค่าเฉลี่ยค่ารักษาพยาบาลไม่แตกต่างกัน ซึ่งจาก