Page 95 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 95
B23
ตารางที่ 1 จำนวนและร้อยละของลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง (N=31)
ลักษณะทั่วไป (N=คน) ร้อยละ
อายุ (MEAN = 55 , SD = 31 , Min = 25 , Max = 70 ) (ปี)
เพศ หญิง 31 100
สถานภาพสมรส โสด 8 25.80
คู่ 19 61.29
หม้าย/หย่าร้าง 4 12.90
โรคประจำตัว โรคความดันโลหิตสูง 20 64.52
โรคเบาหวาน 18 58.06
โรคไขมันในเลือดสูง 8 25.80
โรคหัวใจ 2 6.45
โรคไต 0 0
อื่นๆ 0 0
ไม่มีโรคประจำตัว 10 32.25
จากตาราง 1 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 25-70ปี และมีสถานภาพสมรสคู่และโสด คิดเป็นร้อยละ
61.29 และร้อยละ 25.80 ตามลำดับและมีโรคประจำตัวโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 64.52 โรคเบาหวานร้อย
ละ 58.06โรคไขมันในเลือดสูงร้อยละ 25.80 และโรคหัวใจร้อยละ 6.45
ตารางที่ 2 จำนวนและร้อยละของผลลััพธ์์การใช้โปรแกรมวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยผ่าตัดมะเร็งเต้านม
(N=คน) ผลลัพธ์การใช้โปรแกรมวางแผน
(N=31) จำหน่าย(ร้อยละ)
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการผ่าตัดได้รับการวางแผนจำหน่าย 31 100
คะแนนการประเมินความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม การรักษา 31 97
และการปฏิบัติตัวเมื่อออกจากโรงพยาบาล (Post-test)
คะแนนความพึงพอใจต่อการวางแผนจำหน่ายของผู้ป่วยมะเร็ง 31 98
เต้านมที่ได้รับการผ่าตัด
อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัดมะเร็งเต้านม
แผลติดเชื้อ(ภายใน1เดือน) 0 0
ข้อไหล่ยึดติด(ภายใน6เดือน) 0 0
Seroma(ภายใน6เดือน) 4 12.90
Lymphedema(ภายใน6เดือน) 0
0
จากตาราง 2 พบว่าผลการวิจัย พบว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการผ่าตัดได้รับการวางแผนจำหน่าย ร้อยละ
100 คะแนนการประเมินความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม การรักษา และการปฏิบัติตัวเมื่อออกจากโรงพยาบาล
(Post-test) ร้อยละ 97 คะแนนความพึงพอใจต่อการวางแผนจำหน่ายของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการผ่าตัด
ร้อยละ 98อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังทำผ่าตัดมะเร็งเต้านมชนิดถอนรากแบบดัดแปลงพบอัตราการเกิด
Seroma (ภายใน6เดือน) ร้อยละ 12.90
อภิปรายผล
ผลการศึกษาพบว่าการใช้โปรแกรมวางแผนจำหน่ายและติดตามประเมินการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลัง
ผ่าตัด 1 เดือน ซึ่งเป็นระยะ ผู้ป่วยได้รับการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ป่วย มั่นใจในการดูแลตนเอง
ประกอบกับการส่งเสริม ให้ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมจะช่วยให้ผู้ป่วยยอมรับและปรับตัวกับสภาพความ