Page 22 - คู่มือตำรับอาหารมาตรฐานในโรงพยาบาล (Full)
P. 22
13
2.2.4 ไขมัน
ปริมาณไขมันทั้งหมดที่แนะนำในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับไขมันทั้งหมด
คิดเป็นร้อยละ 20 - 35 ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน โดยมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าหรือเท่ากับ
ร้อยละ 10 และไขมันทรานส์น้อยกว่าร้อยละ 1 ของพลังงานทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน ส่วนที่เหลือเป็น
ไขมันไม่อิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัวสามารถสร้างได้ภายในร่างกายตามที่ร่างกายต้องการโดยไม่จำเป็นต้องได้รับจาก
ภายนอก อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ได้แก่ 1) ไขมันที่มาจากสัตว์ เช่น ไขมันวัว ไขมันหมู เนื้อสัตว์ หนังไก่
สะโพกไก่ น้ำนม เนย เป็นต้น 2) ไขมันที่มาจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจากเมล็ดปาล์ม น้ำมันจาก
เนื้อปาล์มหรือน้ำมันปาล์ม โอเลอิน เป็นต้น และ 3) ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ส่วนไขมันทรานส์ที่มี
ปัญหาต่อสุขภาพ พบได้ในไขมันที่ผ่านกระบวนการไฮโดรจิเนชันบางส่วนหรือไม่สมบูรณ์ที่ผลิตในโรงงาน
อุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ มาการีน เนยขาว ผลิตภัณฑ์อาหารที่ผสมหรือทอดด้วยไขมันที่ผ่าน
กระบวนการไฮโดรจิเนชันบางส่วนดังกล่าว เช่น โดนัท มันฝรั่งทอด ขนมคุกกี้ แครกเกอร์ และขนม
อบกรอบ เป็นต้น
2.2.5 โซเดียม
ความต้องการโซเดียมของผู้ใหญ่เพศชายอายุ 19-30 ปี มีความต้องการ 500-1,475 มิลลิกรัม
ต่อวัน ผู้ใหญ่เพศหญิง อายุ 19-30 มีความต้องการ 400-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ใหญ่เพศชายอายุ 31-
70 ปี มีความต้องการ 475-1,450 มิลลิกรัม ต่อวัน ผู้ใหญ่เพศหญิง อายุ 31-70 ปี มีความต้องการ 400-
1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ใหญ่เพศชายอายุ 70 ปีขึ้นไป มีความต้องการ 400-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ใหญ่
เพศหญิงอายุ 70 ปีขึ้นไป มีความต้องการ 350-1,050 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งปริมาณโซเดียมดังกล่าวเมื่อ
เปรียบเทียบกับค่าปริมาณที่เพียงพอ (AI) ที่กำหนดโดย National Academy of Science ระบุ
ค่าประมาณของโซเดียมที่เพียงพอเท่ากับ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับบุคคลที่อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
เป็นปริมาณต่ำสุดของการบริโภคจากอาหารปกติก็เพียงพอ จากการศึกษาไม่พบว่ามีหลักฐานที่แสดง
9
อาการของการขาดโซเดียม
การบริโภคโซเดียมที่มากเกินความต้องการในระยะยาวมีผลเสียต่อสุขภาพมาก ซึ่งพบว่าการ
บริโภคโซเดียมที่มากสัมพันธ์กับการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ (Non-communicable diseases:
NCD) โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) สรุปเป็นข้อแนะนำอย่างหนักแน่น (strong recommendation)
ว่า ผู้ใหญ่อายุ ≥ 16 ปี ควรลดการบริโภคโซเดียมลงให้น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน (เทียบเท่ากับเกลือโซเดียม
คลอไรด์ 5 กรัมต่อวัน) และจากคำแนะนำของสมาคมโรคหัวใจแหงสหรัฐอเมริกา (American Heart
10
Association) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน โดยชาวอเมริกันมีการบริโภค
โซเดียมมากเกินไป เฉลี่ยอยู่ที่ 3,500 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากอาหารแปรรูป (Process food)
การลดการบริโภคโซเดียมลง 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยให้ความดันโลหิตและสุขภาพหัวใจดีขึ้นอย่าง