Page 11 - ระบบรับส่งต่อผู้ป่วย
P. 11
วัตถุประสงค์กำรศึกษำ
ั
ื่
1. เพอพฒนาระบบการแพทย์ทางไกลในชนบทส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินโดยการเชื่อมต่อ
ระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลกับห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ
2. เพอประเมินประสิทธิผลของระบบการแพทย์ทางไกลในชนบทส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ื่
โดยการเชื่อมต่อระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลกับห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ
วิธีกำรศึกษำ
ระเบียบวิธีวิจัย
งานวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรก เป็นงานวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนหลัง (One
ื่
ั
group pretest posttest) เพอพฒนาระบบการแพทย์ทางไกลในชนบทส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ระยะที่สอง เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive study) เป็นการศึกษาแบบตัดขวาง (A cross-sectional
ื่
study) เพอรวบรวมข้อมูลประเมินประสิทธิผลระบบการแพทย์ทางไกลในชนบทส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤต
ฉุกเฉินโดยการเชื่อมต่อระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลกับห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ
ระยะเวลาการเก็บข้อมูล ตั้งแต่เดือนกุมภาพนธ์ 2565 ถึง เดือนพฤษภาคม 2566 ระยะที่สาม งานวิจัยเชิง
ั
ื่
ั
คุณภาพ เป็นรูปแบบการประชุมแบบกลุ่ม (Focus group) เพอหาแนวทางในการพฒนาระบบการแพทย์
ทางไกลส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน และสอบถามความพึงพอใจต่อระบบระบบการแพทย์ทางไกล
ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
ระยะที่ 1 พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกลในชนบทส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ประชากร ได้แก่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจาก 21 รพ.สต.
กลุ่มตัวอย่าง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจาก 21 รพ.สต. จ านวน 46 คน
ระยะที่ 2 ประเมินประสิทธิผลระบบการแพทย์ทางไกลส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ประชากร ได้แก่ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่เข้ารับการรักษาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึง พฤษภาคม 2566
ระยะที่ 3 แนวทางในการพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกลส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลคนส าคัญซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ รพ.สต. จ านวน 46 คน ประกอบด้วย
พยาบาลวิชาชีพ จ านวน 20 คน นักวิชาการ/เจ้าพนักงานสาธารณสุข จ านวน 26 คน
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย
1. ระบบการแพทย์ทางไกลส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน
ระบบการแพทย์ทางไกลส าหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินพัฒนาโดยบริษัทมายด์ เมดิคอล แคร์จ ากัด
ซึ่งระบบการแพทย์ทางไกลนี้จะมีการเชื่อมต่อช่องทางการปรึกษาและรักษาทางไกลผ่านระบบซอฟแวร์
Ambulink โดยใช้ชื่อว่าระบบการแพทย์ทางไกลห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพนัสนิคม (ER Phanat Teleconsult)
โดยเชื่อมการสื่อสารจาก Smartphone ของเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ด้วยการสแกน QR code หรือกดไอคอนลิงค์
จากหน้าจอมือถือ android หลังจากนั้นกรอก Username และ Password ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ระบบจะท าการ
เชื่อมต่อภาพและเสียงเข้ามายังศูนย์สื่อสารการรักษาทางไกลในห้องฉุกเฉิน รพ.พนัสนิคม และสามารถสื่อสาร
กันได้ทันที โดยมีแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินให้ค าปรึกษาในดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น (Online medical director) และ
พร้อมกับสั่งการหน่วยปฏิบัติการออกเหตุกรณีเข้าเกณฑ์ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน โดยมีจะการติดตามอาการผู้ป่วย
และให้ค าแนะน าโดยตลอด
2. แบบสอบถามประเมินความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินเบื้องต้น
แบบสอบถามนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนที่ 1 ประกอบด้วย ข้อค าถามทั่วไป ได้แก่ อายุ สถานที่
ท างาน จ านวนปีที่ท างาน ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่รพสต จ านวน 4 ข้อ ส่วนที่ 2 ข้อค าถาม
ผลงานวิชาการ Smart Referral System for “One Province One ER” 2023 7