Page 175 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 175
E15
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการออกแบบและพัฒนาระบบ 2) แบบสอบถามข้อมูล
ส่วนบุคคล 3)แบบประเมินตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชสำหรับ
โรงพยาบาลชุมชน ของกรมสุภาพจิตและสำนักการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข (2558) ตรวจสอบความ
เชื่อมั่นกับกลุ่มผู้ปกครองที่ใกล้เคียงกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 ราย ได้ค่า Cronbach’s alpha coefficient
เท่ากับ .89 4) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้ระบบบริการ ตรวจสอบความเชื่อมั่นกับกลุ่มผู้ปกครองที่
ใกล้เคียงกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 10 ราย ได้ค่า Cronbach’s alpha coefficient เท่ากับ .92
การพิทักษ์สิทธิ์กลุ่มตัวอย่าง งานวิจัยนี้ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
สำนักงานสาธารณสุขเชียงราย เลขที่ CRPPHO 248/2566 หลังจากนั้นผู้วิจัยดำเนินการชี้แจงให้แก่
กลุ่มตัวอย่างทราบถึงวัตถุประสงค์ของการวิจัยโดยละเอียด มีการให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งระบุ
แหล่งช่วยเหลือสนับสนุนทางสังคมสำหรับกลุ่มตัวอย่าง โดยกลุ่มตัวอย่างทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมหรือถอนตัว
ได้ทุกเมื่อโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่มีผลกระทบ ข้อมูลทั้งหมดได้ถูกเก็บไว้เป็นความลับและจะนำมาใช้ตาม
วัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้เท่านั้น โดยผู้วิจัยจะนำเสนอข้อมูลที่ได้รับในลักษณะภาพรวม
กระบวนการพัฒนาระบบ ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการ 1) กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์
โดยพัฒนาระบบบริการเพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่นในเขตพื้นที่ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ได้รับการบริการ
อย่างต่อเนื่อง 2) รวบรวมข้อมูล โดยการเตรียมเนื้อหาจากการทบทวนวรรณกรรม 3) เรียนรู้เนื้อหาให้เข้าใจ
อย่างถ่องแท้และครอบคลุม ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบ 1) การคัดเลือกแนวคิดของระบบบริการ ให้มี
ความสัมพันธ์กับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ 2) วิเคราะห์งานและแนวคิด โดยการวิเคราะห์รายละเอียดของ
แนวคิดของระบบบริการให้มีความชัดเจน บูรณาการเนื้อหาของแนวคิดกับการดูแลสุขภาพผู้ป่วยจิตเวชเด็ก
และวัยรุ่น 3) การออกแบบขั้นแรก โดยประยุกต์แนวคิดของระบบบริการเพื่อออกแบบระบบ 4) ประเมินและ
แก้ไขการออกแบบ โดยส่งแบบร่างระบบให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความถูกต้อง และความเหมาะสมของเนื้อหา
ขั้นตอนที่ 3 การจัดทำระบบบริการ และ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการประเมินผลและปรับปรุงระบบบริการ
นำระบบบริการที่พัฒนาขึ้นนำไปทดลองใช้ (Try out) กับกลุ่มที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 10 คน
(Burns & Grove, 2013) และปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม เพื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพของระบบบริการกับ
ผู้ปกครองและหรือผู้ที่มีบทบาทในการดูแลรับผิดชอบผู้ป่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่นเป้าหมาย จำนวน 28 คน
การวิเคราะห์ข้อมูล 1) สถิติเชิงบรรยายใช้วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ค่าความถี่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) สถิติเชิงวิเคราะห์ เปรียบเทียบคะแนนความพึงพอใจต่อการใช้
ระบบบริการ ก่อนและหลังใช้ระบบบริการด้วยสถิติ Paired t-test สำหรับข้อมูลที่มีการกระจายแบบปกติ และ
ใช้สถิติการทดสอบแมนวิทนีย์ยู (Mann-Whitney U) สำหรับข้อมูลที่มีการกระจายแบบไม่ปกติ
ผลการศึกษา
1) ผลด้านการเข้าใช้บริการโดยมีผู้ป่วยเข้ารับบริการทั้งหมด 138 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น
จำนวน 118 ราย คิดเป็นร้อยละ 85.50 และโรคอื่น ได้แก่ โรคซึมเศร้า ออทิสติก สติปัญญาบกพร่อง และ
ปัญหาพฤติกรรมอื่นๆ รวมทั้งสิ้นจำนวน 20 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.49 โดยมีการจัดบริการ ทุกวันอังคาร
มีจำนวนผู้รับบริการ ในวันคลินิกเฉลี่ย 13-17 ราย / ครั้ง 2) ผลด้านคุณภาพการรักษา มีผู้ป่วยรักษาโรคสมาธิสั้น
เข้ามาในระบบบริการจำนวน 118 ราย โดยได้รับการรักษาต่อเนื่องร้อยละ 85.68 จำหน่ายโดยและย้าย
ภูมิลำเนาร้อยละ 6.76 และขาดการรักษาร้อยละ7.56 ซึ่งอัตราการขาดการรักษาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
3) ผลการประเมินด้านความพึงพอใจระบบบริการในเดือน มกราคม - มีนาคม 2567 พบว่าผู้รับบริการมีความ
พึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 91.30 , 92.02 และ 94.20 ตามลำดับ
อภิปรายผล