Page 210 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 210
E50
สีเขียว หมายถึง กินยาต่อเนื่อง ไม่ขาดยา และมีญาติดูแล
ผู้ป่วยจะมีสมุดบันทึกสุขภาพจิตของแต่ละคน
หลังจากได้รับการคัดกรอง/ประเมิน/ติดตามและสอบถาม
จากผู้ป่วยรวมถึงญาติที่ดูแลแล้วจะได้รับวงกลมสีของแต่
ละคนติดลงหน้าบันทึกการติดตามเยี่ยมบ้าน ซึ่งสามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพความเป็นจริง
2. Purpose สามารถค้นหากลุ่มเสี่ยงจิตเวชได้มากขึ้น ลดอาการกำเริบหรือการกลับมาเป็นซ้ำของ
ผู้ป่วย และได้รับบริการต่อเนื่องในชุมชน สามารถเข้าถึงบริการมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพของภาคี
เครือข่าย
3. Process มีการคัดกรองภาวะซึมเศร้า ประสานเข้าระบบบริการ ซักประวัติ ส่งต่อสู่การรักษา
เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ได้รับบริการให้คำปรึกษา พบแพทย์ และติดตามดูแลรักษาอย่าง
ต่อเนื่อง เพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วย โดยการประชาสัมพันธ์ช่องทางสถานบริการให้คำปรึกษา Line OA มี
การสร้างแกนนำเครือข่าย และดำเนินการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยกับทีมหมอเยี่ยมบ้าน ร่วมกับสหวิชาชีพ
อภิปรายผล
ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้ ญาติ/คนดูแลมีความรู้ ทักษะที่จะดูแลผู้ป่วยส่งผลให้ผู้ป่วยไม่มีอาการกำเริบ
ซ้ำ มีการบริการดูแลต่อเนื่อง อีกทั้งลดความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรงในชุมชน ลดอัตราการป่วยซ้ำของ
ผู้ป่วย มีการติดตามเยี่ยมบ้านทำให้ทราบการใช้ชีวิตประจำวัน สภาพแวดล้อมรอบข้าง และการดูแลของญาติ
เจ้าหน้าที่แนะนำการดูแลได้ถูกต้องเหมาะสม ทำให้เกิดแกนนำเครือข่ายของการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพ
ติดในชุมชน สามารถเพิ่มการเข้าถึงบริการทางจิตเวชได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งต่อเพื่อรับบริการที่เหมาะสม มี
ประสิทธิภาพมากขึ้น ได้รับการดูแลที่เหมาะสมเป็นรายกรณีอย่างต่อเนื่อง และมีการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม
มองเห็นคุณค่าในตนเองคงไว้ซึ่งการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
สรุปและข้อเสนอแนะ
รูปแบบในการพัฒนา 5 ประเด็น คือ 1) การพัฒนาศักยภาพของคนดูแล 2) การพัฒนาระบบการติดตามเยี่ยม
3) การพัฒนาความมีส่วนร่วมของเครือข่ายดูแลผู้ป่วย 4) การสนับสนุนการดูแลตนเอง 5) การสนับสนุนทาง
สังคม ผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพิ่มศักยภาพแนวทางการเยี่ยมบ้าน ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความสามารถใน
การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้น มีการรับรู้ภาวะสุขภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะเห็นได้ว่า จากการ
ดำเนินดังกล่าวการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในแนวทางเดิมได้ผลน้อย เนื่องจากขาดความเชื่อมโยงการดูแลกับชุมชนที่
ชัดเจน แนวทางการเยี่ยมบ้านที่พัฒนาขึ้น ส่งผลให้เกิดการร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่
ชัดเจน เกิดพลังในชุมชนที่ร่วมผลักดัน ให้เกิดการแก้ไขและขจัดปัญหา ก่อให้เกิดทีมที่เข้มแข็ง เกิดความ
ร่วมมือ การประสานงานที่ดี มีการสนับสนุนทรัพยากรร่วมกัน เกิดภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับ
การดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการติดตามรักษาที่เหมาะสม และกลับมาใช้ชีวิตได้ อย่าง
มีคุณภาพอีกครั้ง
ข้อเสนอแนะ หน่วยบริการทางสุขภาพควรสนับสนุนให้มีการ เยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคจิตเภทโดยทีมสห
สาขาวิชาชีพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น
