Page 208 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 208
E48
1. การพัฒนานวัตกรรมนี้ ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงจริยธรรม อย่างครอบคลุมทั้งพยาบาลผู้ที่ลงข้อมูล
และผู้ป่วย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิผู้ป่วย ความปลอดภัยจากการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ และผู้ออกแบบได้ทำ
การขออนุญาตจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลและ อสม. ในการใช้นวัตกรรมเพื่อการเก็บข้อมูลและทดลองใช้
นวัตกรรม
2. ผู้ดูแลระบบ คือ ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพจิตเพียงผู้เดียว การส่งคืนข้อมูล ให้ผู้เกี่ยวข้องจะส่งคืนใน
ภาพรวม และหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล ต้องทำเพื่อการรักษาบำบัดเท่านั้น และต้องได้รับความยินยอมจาก
ผู้ป่วยก่อนเสมอ
ผลการศึกษา/การประเมินผลนวัตกรรม
จากการนำไปทดสอบการใช้ พบว่า จำนวนผู้ป่วยได้รับการประเมิน ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 20
สิงหาคม 2566 จำนวน 31 คน ไม่มีอาการเตือน 61.3% มีอาการเตือนทางจิตกำเริบ 38.7 % และได้รับการ
ประเมินติดตามนำเข้าระบบการรักษาของโรงพยาบาลต่อไป ประเมินด้านความพึงพอใจในการใช้แบบประเมิน
โดยใช้เกณฑ์การประเมินนวัตกรรมของ รศ.ดร.ดรุณี รุจกรกานต์ โดยได้นำมาสร้างเป็น Google form เพื่อให้
อสม.ประเมินพบว่า อยู่ในระดับดีมาก
อภิปรายผล
นวัตกรรมการติดตามอาการเตือนทางจิตกำเริบ ในผู้ป่วยจิตเภทเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง ที่สร้างขึ้น
เป็นระบบการติดตามผู้ป่วยที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำงานไม่ซ้ำซ้อนลดขั้นตอนการทำงาน
ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็ว ทำให้ป้องกันการก่อความรุนแรงได้ มีระบบประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็ว ข้อมูล
ไม่สูญหาย ทำให้มีประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนางานได้ และสามารถนำระบบที่ได้ ปรับใช้กับ อสม. ทั้งอำเภอ
สำโรงในการป้องกันการก่อความรุนแรงในชุมชน
สรุปและข้อเสนอแนะ
ควรมีการติดตาม และขยายผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อความยั่งยืนของระบบการติดตาม
อาการเตือนทางจิตกำเริบ ในผู้ป่วยจิตเภทเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรงในชุมชน