Page 413 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 413
K46
โทรศัพท์สำหรับติดต่อ และสร้างแรงจูงใจ (motivation) ในการกำกับตนเอง การประมาณตนเอง การเสริมแรง
ตนเอง เป็นระยะเวลา 16 สัปดาห์ และกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามมาตรฐาน
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้
ประเมินผลลัพธ์การวิจัยก่อนและหลังในสัปดาห์ที่ 16 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติพรรณนา และ
สถิติการทดสอบ Paired t-test เปรียบเทียบผลการทดลองภายในกลุ่มก่อนหลังจัดโปรแกรม และ
ใช้ Independent Simple t-test เพื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม
ผลการศึกษา
พบว่าภายหลังการทดลองในสัปดาห์ที่ 16 กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด ระดับ
ความดันโลหิต และเส้นรอบเอวลดลงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .05) เมื่อเปรียบเทียบ
ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมพบว่า ค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิตของ
กลุ่มทดลองลดลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .05) ส่วนค่าเฉลี่ยของเส้นรอบเอว
พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p> 0.05)
อภิปรายผล
รูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ในกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
เป็นรูปแบบที่พัฒนาขึ้น โดยการนำแนวคิดการสนับสนุนการจัดการตนเอง (Self-management) ร่วมกับ
การได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรทางด้านสุขภาพและความร่วมมือของผู้ป่วย มาประยุกต์ใช้
ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับความดันโลหิต และเส้นรอบเอวลดลง อย่างมี
นัยสำคัญ อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ใช้รูปแบบเดิม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่า
รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมานี้ สามารถใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะเนื่องมา
จากรูปแบบนี้เกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถช่วยเพิ่มสมรรถนะ
ในการจัดการตนเองได้ดี เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการจัดการตนเองในด้านการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย
และการจัดการกับความเครียด สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถ
ลดปัจจัยเสี่ยงของลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปและข้อเสนอแนะ
1) ควรมีการจัดโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อชักจูงให้กลุ่มเสี่ยง
โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงทุกรายที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโปรแกรม ได้รับการดูแลให้ครบทุกคน
และควรทำการศึกษาเชิงคุณภาพในกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังกลุ่มอื่นๆ เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่ม
2) ควรมีการศึกษาซ้ำในกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดมากขึ้น และติดตามผลการดำเนินงานระยะยาว
เพื่อดูความต่อเนื่องของประสิทธิผลของโปรแกรมโดยขยายกรอบเวลาของการศึกษามากกว่า 4 เดือน