Page 678 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 678
S1
เปรียบเทียบผลการใช้ตำรับยากัญชาแก้ลมแก้เส้นกับเถาวัลย์เปรียง ในผู้ป่วยกล้ามเนื้อหลังตึง
โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
พงษ์พิพัฒน์ จงเพ็งกลาง และสกรรจ เชื้อมาก
โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 9
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิม
พระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้บริการผู้ป่วยทางด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย และนวดไทย
ซึ่งมีอันดับกลุ่มอาการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ปวดหลังส่วนล่าง, ปวดขา และปวดบ่า ร้อยละ 48.24, 25.61 และ
14.32 ตามลำดับ โดยหัตถการส่วนใหญ่จะเป็นการนวดไทยและจ่ายยาที่มีความเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ ได้แก่
เถาวัลย์เปรียงและตำรับยากัญชาแก้ลมแก้เส้น แต่กลับพบปัญหาในผู้ป่วยบางกลุ่มที่ไม่สามารถทำหัตถการ
นวดไทยได้ เนื่องจากจำนวนของผู้ให้บริการมีจำนวนน้อย และหากต้องนัดรักษาจะต้องใช้เวลาข้ามวัน หรืออาจ
เป็นสัปดาห์ถัดไป ผู้ป่วยจึงประสงค์ขอรับยาสมุนไพรไปรับประทาน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ที่ให้เกิดกับผู้รับบริการ
สูงสุด ผู้ศึกษาจึงประสงค์เปรียบเทียบผลการใช้ตำรับยากัญชาแก้ลมแก้เส้นกับเถาวัลย์เปรียง ในผู้ป่วย
กล้ามเนื้อหลังตึง โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
วัตถุประสงค์การศึกษา
1) เพื่อเปรียบเทียบผลการใช้ตำรับยากัญชาแก้ลมแก้เส้นกับเถาวัลย์เปรียง ในผู้ป่วยกล้ามเนื้อหลังตึง
โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อใช้กับผู้ป่วยให้เหมาะสมมากที่สุด
2) เพื่อเปรียบเทียบค่าคะแนนความปวด และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ภายในกลุ่มและ
ระหว่างกลุ่ม ก่อนและหลังการทดลอง
วิธีการศึกษา
1) รูปแบบการศึกษา เป็นการศึกษากึ่งทดลอง (Quasi-experimental) 2 กลุ่ม เปรียบเทียบ
ก่อนและหลังการทดลอง
2) กลุ่มตัวอย่าง ในการศึกษาครั้งนี้กำหนดขอบเขตด้านประชากร คือ ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหลังตึงที่เข้ารับ
การรักษาที่คลินิกการแพทย์แผนไทย จำนวน 163 คน จากนั้นสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มละ 43 คน จากการคำนวณโดยใช้สูตรเพื่อหากลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม
3) หลักเกณฑ์คัดเลือก เกณฑ์คัดเข้า ได้แก่ แพทย์หรือแพทย์แผนไทยวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยกล้ามเนื้อ
หลังตึง, ประสงค์เข้ารับการรักษาทางการแพทย์แผนไทย, ไม่ได้รับประทานยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ
มาก่อน และมีระดับความปวดอยู่ที่ 5-7 คะแนน เกณฑ์คัดออก คือ ไม่ประสงค์เข้าร่วมวิจัยกลางคันหรือ
ย้ายถิ่นฐานขณะเข้าร่วมการศึกษา