Page 739 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 739
T26
การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย
คปสอ.ลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์
นางธัญนันท์ พชรบัณฑิตวงศ์ และนายแพทย์นายธนเมศร์ พิทักษา
โรงพยาบาลลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 9
ประเภท นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
World Health Organization (WHO) ได้ให้ความหมาย ของแต่ละคำว่าไว้ดังนี้ คือ “end of life care”
เป็นการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยมีระยะเวลาของชีวิตไม่เกิน 6 เดือน สำหรับ terminal care เป็นการดูแล
ผู้ป่วยช่วงใกล้เสียชีวิต ประมาณ 1 สัปดาห์สุดท้าย โดยทีมสหสาขาวิชาชีพร่วมกับ ผู้ป่วยและครอบครัว ให้สามารถ
ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้อย่างมีคุณภาพ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่าง มีคุณค่า และเสียชีวิต อย่างสงบ จากบริบท
ดังกล่าว กลุ่มงานการพยาบาลโรงพยาบาลลำปลายมาศ จึงได้เห็นความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยระยะ
ประคับประคองจึงได้พัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย
คปสอ.ลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อกำกับกระบวนการในการติดตามการดูแลผู้ป่วย
ระยะประคับประคองหลังมีการจำหน่ายกลับบ้าน ผู้ป่วยประคับประคองในชุมชน การสร้างเครือข่ายระดับปฐมภูมิ
เพื่อการส่งต่อข้อมูลทางคลินิก การประเมินผลลัพธ์ทางคลินิก การอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่และผู้ดูแลในการดูแล
ผู้ป่วยระยะประคับประคอง การติดตามเยี่ยมบ้าน การเสริมพลังสำหรับเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะ
ประคับประคองในชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการ การดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองในอำเภอลำปลายมาศ
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อศึกษาผลของระดับความพึงพอใจของญาติหรือผู้ดูแล และความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ต่อแนวทาง
ปฏิบัติของการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคองเพื่อนำไปสู่ภาวะ good death โดยการมี
ส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายคปสอ.ลำปลายมาศ
วิธีการศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลแบบย้อนหลัง (retrospective ) รูปแบบการวิจัยแบบเชิงพรรณนา
(Descriptive research ) ศึกษาแบบวัดผลลัพธ์ วัดผลก่อน-หลัง เพื่อติดตามผลของการพัฒนารูปแบบการดูแล
ผู้ป่วยระยะประคับประคอง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย คปสอ.ลำปลายมาศ ในการศึกษาดูแลผู้ป่วย
ระยะประคับประคองมีระบบในการดูแลดังนี้
1. ปัจจัยในการวางแผนล่วงหน้า ( Advance care plan)
2. การวางแผนการประเมินผู้ป่วยด้วยแบบประเมิน PPS score
3. การให้การดูแลรักษาอาการตามแบบประเมิน ESAS score
4. การให้ความรู้กับครอบครัว Family planning การดูแลแบบองค์รวมครอบคลุม มิติ กาย จิต
อารมณ์ สังคมและจิตวิญญาณ
5. การโทรติดตามหรือการลงเยี่ยมบ้านอย่างต่อเนื่องและมีการประเมินทางการแพทย์และการรายงาน
อาการผู้ป่วย ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล 1 ปี (ตุลาคม 2565-กันยายน2566) การวิเคราะห์ข้อมูล
(Outcome measurement/Data Analysis) วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยสถิติเชิงพรรณนา แจกแจงความถี่
ร้อยละ