Page 81 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 81
B11
ระดับที่ 1 33 (33.67) 9 (25.00)
ระดับที่ 2 40 (40.82) 1 (2.78)
ระดับที่ 3 17 (17.35) 1 (2.78)
หลังจากวิเคราะห์ด้วย multivariable ordinal logistic regression โดยปรับความแตกต่างของสูตร
ยาเคมีบำบัด และดัชนีมวลกายแล้ว พบว่าการได้รับยา gabapentin สามารถป้องกันการเกิดปลายประสาท
อักเสบที่ผู้ป่วยจะมีระดับรุนแรงขึ้น (จากระดับ 0-1 ไปเป็นระดับ 2-3) ได้ 0.04 เท่า เมื่อเทียบกับการไม่ได้รับยา
gabapentin อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังแสดงในตารางที่ 2
ตารางที่ 2 ผลการวิเคราะห์ด้วย multivariable ordinal logistic regression
Odds Ratio 95% CI p-value
ได้รับ gabapentin 0.04 0.02 - 0.11 < 0.001
สูตรยาเคมีบำบัด 1.55 0.63 - 3.80
ดัชนีมวลกาย 1.29 0.92 - 1.81
อภิปรายผล
การได้รับยา gabapentin ตั้งแต่รอบแรกของการได้รับยาเคมีบำบัดสูตรที่ประกอบด้วยยา
oxaliplatin มีประโยชน์ในป้องกันการเกิดปลายประสาทอักเสบที่จะมีระดับรุนแรงขึ้นได้ และพบว่าการบริหาร
ยา gabapentin แบบ low dose (300 mg) รับประทานก่อนนอน ไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่เกิดจาก
gabapentin เช่น อาการมึนงง สับสน เดินเซ
สรุปและข้อเสนอแนะ
การให้ความสำคัญในการเก็บรวบรวมข้อมูลผลข้างเคียงที่เกิดจากยาเคมีบำบัด โดยเน้นการวิเคราะห์
แยกถึงระดับความรุนแรงของผลข้างเคียงนั้น ๆ ข้อมูลที่ได้จะนำมาประยุกต์ใช้ในการป้องกันแก้ไขปัญหาได้
หลากหลายดีขึ้น เนื่องจากในแต่ละระดับความรุนแรงส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแตกต่างกัน รวมทั้งการ
จัดการผลข้างเคียงในแต่ละระดับความรุนแรงก็มีความแตกต่างกัน การศึกษานี้พบประโยชน์ของการได้รับยา
gabapentin แต่ควรศึกษาเพิ่มเติมการใช้ขนาดยา gabapentin ที่หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วย ที่เกิด
ปลายประสาทอักเสบในระดับที่ 1 และติดตามอาการปลายประสาทอักเสบในระยะยาวเมื่อให้ ยาเคมีบำบัด
ครบสูตรการรักษาแล้ว
ทางคณะผู้ศึกษาที่ประกอบด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้รายงานผลต่อที่ประชุม Service plan cancer
และที่ประชุมได้มีมติให้ประยุกต์ใช้ยา gabapentin ลงใน pre-print order form ของคำสั่งใช้ยาเคมีบำบัด และ
ติดตามผลการใช้ต่อไป ทั้งด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอนาคต