Page 159 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 159
C34
ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพในการจัดการภาวะเร่งด่วนของผู้ป่วย
Stroke ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ในบริบทที่เหมาะสมกับโรงพยาบาล เพื่อพัฒนาสมรรถนะพยาบาล
วิชาชีพในการดูแลผู้ป่วย Stroke ในหน่วยงาน มีกระบวนการดูแลผู้ป่วยที่ได้คุณภาพมาตรฐาน บริการที่รวดเร็ว
ลดอัตราการเสียชีวิตและความพิการ
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อศึกษาสถานการณ์ด้านสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ ในการจัดการภาวะเร่งด่วน ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือด
สมองตีบและอุดตันเฉียบพลัน งานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน
2. เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพที่ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและ
อุดตันเฉียบพลัน ของงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน
3. เพื่อศึกษาผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบ
วิธีการศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research) โดยศึกษาในพยาบาลประจำการหน่วยงาน
อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน จำนวน 13 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง
แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ในช่วง เดือน เมษายน พ.ศ. 2566 - ธันวาคม พ.ศ. 2566 แบ่งเป็น
ระยะเตรียมการ ระยะปฏิบัติการ ระยะประเมินผล โดยใช้กรอบแนวคิด การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
Deming cycle มาใช้เป็นกรอบในการศึกษา ประกอบด้วย 1) การวางแผน (Plan: P) นำผลการวิเคราะห์เกี่ยวข้องกับ
การดูแลผู้ป่วยมาวางแผนพัฒนา 2) การปฏิบัติตามแผน (DO : D ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพของหน่วยงาน
ชี้แจงวัตถุประสงค์ กระบวนการพัฒนารูปแบบให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรับทราบ เพื่อขอความคิดเห็น
ข้อเสนอแนะและกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนา นำรูปแบบที่พัฒนามาทดลองใช้ 3) การตรวจสอบการปฏิบัติ
ตามแผน (Check: C) ใช้แบบสอบถาม ใช้การสังเกตสภาพจริง ในการจัดการภาวะเร่งด่วนของผู้ป่วยโรคหลอด
เลือดสมองตีบและอุดตันเฉียบพลัน ของพยาบาลวิชาชีพ 4) ปรับปรุงแก้ไข (Act: A) นำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุง
แก้ไขรูปแบบ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
(Content Analysis)
ผลการศึกษา
ผลการวิจัย ประเด็นปัญหาจากการวิเคราะห์ระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง พบว่า สมรรถนะ
พยาบาลวิชาชีพ ร้อยละ 48.18 ในหน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินก่อนการพัฒนาขาดความชำนาญในด้านการประเมิน
การตรวจร่างกายทางระบบประสาทของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ
ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย การให้ความรู้ผ่านสื่อวิดีทัศน์ การพัฒนาทักษะด้วยกระบวนการ Coaching โดยพี่เลี้ยง
ที่เชี่ยวชาญในหน่วยงาน สอนการปฏิบัติที่สำคัญที่ต้องการให้บุคลากรเกิดการพัฒนาสูงสุด ประเมินการปฏิบัติการ
พยาบาลโดยการสังเกต ตามคู่มือการนิเทศทางการพยาบาลทางคลินิก พยาบาลวิชาชีพสามารถจัดการภาวะ
เร่งด่วนของผู้ป่วยถูกต้องครบถ้วนร้อยละ 100 ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการใช้รูปแบบการพัฒนา ระดับความ
พึงพอใจมากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 97.85 อัตราผู้ป่วยได้รับยาละลายลิ่มเลือด ภายใน 60 นาที ร้อยละ 88.89 ผลการ
ติดตามอาการผู้ป่วยหลังได้รับยาอาการดีขึ้น ร้อยละ 88.89 และรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพในการ
จัดการภาวะเร่งด่วนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตันเฉียบพลัน ดังแผนภาพ