Page 273 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 273

F31


                               การพัฒนาระบบการค้นหาและติดตามหญิงตั้งครรภ์เชิงรุกเพื่อเพิ่มอัตราการฝากครรภ์

                                       ก่อน 12 สัปดาห์ของตำบลธงธานี อำเธอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด


                                                                    นางพรพิศ กุดหอม, นางสาววรรณภา วาลย์มนตรี

                                                                   โรงพยาบาลธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด เขตสุขภาพที่ 7
                                                                                               ประเภท วิชาการ


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         การฝากครรภ์ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการพัฒนาคุณภาพประชากรตั้งแต่อยู่ในครรภ์ตลอดจนการคลอด

                  เป็นไปด้วยความราบรื่น มารดาและทารกปลอดภัยปราศจากภาวะแทรกซ้อนและมีสุขภาพแข็งแรง
                  จากการวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพของแม่และเด็กในประเทศไทย พบว่า มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในแนวทางที่ดี

                  และมีการดำเนินงานตามแนวทางการฝากครรภ์คุณภาพ 8 ครั้งขององค์กรอนามัยโลก แม้ว่าหญิงตั้งครรภ์
                  กลุ่มความเสี่ยงต่ำจะได้รับบริการฝากครรภ์เฉลี่ย 10 ครั้ง แต่ยังพบว่ามีกลุ่มที่มาฝากครรภ์ช้าถึงร้อยละ 25.7

                  ทำให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการประเมินความเสี่ยงและการดูแลตามมาตรฐานฝากครรภ์ช้าส่งผลให้เกิดความเสี่ยง
                  และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดทั้งตัวมารดาและทารก ซึ่งผลการดำเนินงาน

                  งานฝากครรภ์จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 พบว่าอัตราของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ภายใน  12 สัปดาห์
                  มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะเครือข่ายบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ปี พ.ศ.2563- 2565
                  คิดเป็นร้อยละ 66.67, 72.22, และ 23.08 ตามลำดับ ถ้าวิเคราะห์ตามสถิติแล้ว ผลการดำเนินงานอำเภอธวัชบุรี

                  ยังไม่ผ่านเกณฑ์และยังเป็นปัญหาหลักที่สำคัญในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ตามมาตรฐานฝากครรภ์
                         ดังนั้นปัญหาการฝากครรภ์ล่าช้า จึงเป็นปัญหาที่สำคัญจะต้องหาแนวทางการแก้ไข ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่

                  เกิดจากปัจจัยบุคคล ได้แก่ เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก ไม่มั่นใจว่าตนตั้งครรภ์ รอให้ครรภ์โตก่อนจึงมาฝากครรภ์
                  ความไม่สะดวกและวันนัดตรงกับการทำงานประจำ (วัชรากร กุชโร.2562.การพัฒนารูปแบบการเยี่ยมติดตาม

                  หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ โรงพยาบาลหนองพอกจังหวัดร้อยเอ็ด Development of Home Visit Model for
                  1 2 -Week Pregnancy Women Created by Nong Phok Hospital, Roi Et Province,ธันวาคม2562(3),41.)

                  การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้หญิงตั้งครรภ์ได้มีความรู้ถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์
                  โดยใช้ความรู้ทางการพยาบาลมา ผนวกกับการประเมินสถานะสุขภาพเพื่อการสนับสนุนให้การตั้งครรภ์
                  และการคลอดเป็นปกติ จะช่วยบรรเทาความกังวลด้านจิตใจแก่หญิงตั้งครรภ์และเป็นการป้องกันและเฝ้าระวัง

                  โรคแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นร่วมกับการตั้งครรภ์ หทัยรัตน์รังสรรค์สฤษดิ์.(2020).ปัจจัยที่มีวามสัมพันธ์
                  ต่อการมาฝากครรภ์ล่าช้ากว่า 12 สัปดาห์ ของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ครั้งแรกในสถานบริการของรัฐ

                  เขตอำเภอกะทู้ จังหวัด ภูเก็ต.วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น,1(3),12-25.) ตลอดจน
                  แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝากครรภ์และดูแลอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์

                  แต่ละราย
                          จากปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยได้ทบทวนเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ได้นำระบบการเยี่ยมติดตาม

                  หญิงตั้งครรภ์มาปรับใช้และพัฒนาระบบการค้นหาและติดตามหญิงตั้งครรภ์เชิงรุก เพื่อเพิ่มอัตราการฝากครรภ์
                  ก่อน 12 สัปดาห์ของตำบลธงธานี และนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการบริการฝากครรภ์ ให้หญิงตั้งครรภ์
   268   269   270   271   272   273   274   275   276   277   278