Page 324 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 324

H4


                                  การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุบ้านปะโค

                                      ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ


                                                                                         นางสาวโสภิดา  ยอดยิ่ง
                                                โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านชวน จังหวัดชัยภูมิ  เขตสุขภาพที่ 9

                                                                          ผลงานทางวิชาการ Poster Presentation

                  ความสำคัญของปัญหา
                         โครงสร้างประชากรของบ้านปะโคเป็นสังคมผู้สูงวัย โดยมีผู้สูงอายุร้อยละ 35.87 ส่วนใหญ่มีปัญหา

                  ด้านสุขภาพช่องปาก  จากการสำรวจโรคในช่องปากผู้สูงอายุบ้านปะโค  โรคที่พบในช่องปากผู้สูงอายุส่วนใหญ่
                  คือโรคปริทันต์อักเสบ คิดเป็นร้อยละ  95.5 ตามด้วยโรครากฟันผุ คิดเป็นร้อยละ 55.5 โรคฟันผุคิดเป็น
                  ร้อยละ 43.5  ฟันใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ เพียงร้อยละ 4  ผู้สูงอายุที่มีฟันหลัง ใช้งานที่เหมาะสม ไม่น้อยกว่า

                  4 คู่สบ เพียงร้อยละ 2.5 มีความครอบคลุมของการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุร้อยละ 40.5 ปัจจุบันระบบการดูแล
                  สุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในชุมชนที่มีอยู่ยังไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งมีบุคลากรทางด้านทันตสุขภาพ
                  ไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุยังไม่เข้าถึงบริการด้านทันตสุขภาพ ไม่มีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก
                  และขาดการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ซึ่งมีผลต่อการดูแลสุขภาพ
                  ช่องปากในผู้สูงอายุ


                  วัตถุประสงค์
                         เพื่อพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุบ้านปะโคตำบลบ้านชวนอำเภอบำเหน็จณรงค์

                  วิธีการศึกษา
                         เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) โดยใช้วงจร PAOR ของ Kemmis และ McTaggart
                  ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน (Planning; P) การปฏิบัติการ (Action: A) การสังเกตการณ์

                  (Observation; O) และการสะท้อนกลับ (Reflection; R) ศึกษาระหว่างเดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2566
                  กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุในชุมชนบ้านปะโค จำนวน 100 คน กลุ่มผู้เกี่ยวข้องจำนวน 25 คน การเก็บข้อมูล
                  ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณ
                  ประกอบด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Paired t-test

                  ผลการศึกษา

                         การวิจัยนี้มีการพัฒนาทั้งสิ้น 3 วงรอบ ดังนี้ วงรอบที่ 1 ได้กิจกรรม 3 กิจกรรม กิจกรรมที่ 1
                  มีการพัฒนา อสม. ต้นแบบ โดยการอบรมให้ความรู้ อสม. จัดตั้งศูนย์ทันตกรรมภาคประชาชน คัดเลือก
                  ประธานศูนย์ฯ กำหนดเป็นผู้ประสานและรับผิดชอบหลักในหมู่บ้าน กิจกรรมที่ 2 มีการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ
                  รักษ์ฟัน ออกแบบหลักสูตรการดูแลสุขภาพฟันที่บูรณาการกับวิถีชีวิตและทรัพยากรในชุมชน

                  (กองทุนหมู่บ้าน วัด โรงเรียน อบต. รพ.สต.) ทำการเรียนการสอน 2 สัปดาห์ต่อครั้ง วิทยากรจากองค์ในพื้นที่
                  กิจกรรมที่ 3 มีการจัดทำธรรมนูญสุขภาพหมู่บ้าน “คนปะโค สูงวัย ฟันดี” มาตรการครอบครัวรักษ์ฟัน ร้านค้า
                  คัดสรร ผู้สูงวัยใส่ใจฟันดี ผลการประเมินสุขภาวะช่องปากผู้สูงอายุ ได้แก่ ระดับคราบจุลินทรีย์ที่ฟัน

                  วงรอบที่ 2 ได้กิจกรรม 2 กิจกรรม กิจกรรมที่ 1 มีระบบคัดกรองสุขภาพช่องปากออนไลน์ ประกอบด้วย
                  การคัดกรองด้วย อสม. ในชุมชน การบันทึกข้อมูลในระบบออนไลน์ การวิเคราะห์และจำแนกข้อมูลโดย
                  รพ.สต.จัดกลุ่มผู้สูงอายุเข้าโครงการ LTC (ติดสังคม ติดบ้าน ติดเตียง) กิจกรรมที่ 2 มีการพัฒนาระบบสื่อสาร
   319   320   321   322   323   324   325   326   327   328   329