Page 492 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 492
L41
ประสบการณ์การใช้ยาพอกผสมน้ำมันกัญชารูปแบบทาภายนอก (Adjuvant Therapy)
ของแพทย์แผนไทยในผู้ป่วยโรค Multiple myeloma and malignant plasma cell
neoplasms ระยะประคับประครอง
นางสาวจุฑามาศ ภูนีรับ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดกาฬสินธุ์
นางสุณัฐฏา หนองห้าง โรงพยาบาลเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ เขตสุขภาพที่ 7
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
กัญชา Cannabis sativa Linn. วงศ์ Cannabaceae เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารสำคัญในกลุ่ม Cannabinoids
เช่น Cannabidiol (CBD) และ Delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) ปัจจุบันมีการบรรจุเป็นยาสมุนไพร
ในบัญชียาหลักแห่งชาติปี 2566 จำนวน 11 รายการ และมีการส่งเสริมการจัดตั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์
ซึ่งผู้มีสิทธิ์สั่งจ่ายยาสมุนไพรประกอบด้วยแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา
ได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติมีข้อบ่งใช้ เช่น ลดปวด เพิ่มความอยากอาหาร ช่วยให้นอนหลับ
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์และการแพทย์ทางเลือกได้ผลิตและสนับสนุนน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา
ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ นอกจากการใช้ด้วยวิธีหยอดใต้ลิ้นแล้ว จากรายงานการตรวจราชการกรณีปกติ
รอบที่ 2 ปีงบประมาณ 2566 จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่ามีข้อมูลการให้บริการผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วยการใช้
น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชาร่วมกับการตั้งตำรับยาของแพทย์แผนไทยในรูปแบบทาภายนอก ได้ผลดีในด้านการลด
อาการปวดแสบร้อนที่แผลของผู้ป่วย และเป็นกรณีศึกษาเพื่อพัฒนาการให้บริการกัญชาทางการแพทย์
ของหน่วยบริการอื่นๆในพื้นที่ จึงเป็นที่มาของแหล่งข้อมูลในการศึกษาเชิงคุณภาพกับแพทย์แผนไทยผู้มีประสบการณ์
การใช้น้ำมันกัญชารูปแบบทาภายนอกร่วมกับการตั้งตำรับยาสมุนไพร จำนวน 1 คน จากโรงพยาบาลชุมชน
แห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่ออธิบายและบรรยายประสบการณ์ของแพทย์แผนในการใช้น้ำมันกัญชารูปแบบทาภายนอก
(Adjuvant Therapy) ในผู้ป่วยโรค Multiple myeloma and malignant plasma cell neoplasms ระยะ
ประคับประครอง
วิธีการศึกษา
ใช้ระเบียบวิจัยเชิงปรากฏการณ์วิทยาแบบบรรยาย (descriptive phenomenology) เพื่อบรรยาย
และอธิบายประสบการณ์ของแพทย์แผนไทยในการดูแลผู้ป่วยโรค Multiple myeloma and malignant
plasma cell neoplasms โดยใช้น้ำมันกัญชารูปแบบทาภายนอก (Adjuvant Therapy) แบบประคับประคอง
ร่วมกับทีมสหวิชาชีพของโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยประชากรที่ศึกษาคือแพทย์แผน
ไทยผู้ให้บริการผู้ป่วยดังกล่าว จำนวน 1 คน ใช้การเลือกประชากรแบบจำเพาะเจาะจง และขอความร่วมมือ
จากแพทย์แผนไทยในการสัมภาษณ์เชิงลึก ใช้วิธีเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก จำนวน 1 ครั้ง ใช้
เวลานาน 40 นาที หลังจากรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยมีข้อสงสัยในบางประเด็นจึงใช้การโทรศัพท์สัมภาษณ์พร้อม
บันทึกเสียงเพิ่มเติมจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10 นาที