Page 581 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 581

N45

                                “หนึ่งวัน” มหัศจรรย์เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อและจัดการเชื้อดื้อยา



                          พญ.สุนีย์ ชยางศุ, นางสิริกุล  พิพิธแสงจันทร์, นางสาวสุชัญญา  มาลัย, นางสาววิไลลักษณ์  คำพิทักษ์,
                       นางศรีสุภา  เรืองแข, นางสาวศิริลักษณ์  ลำดับจุด, นางสาวธัชมาศ  โล้กูลประกิจ, ภก.เนตรนภา  ตรีนิติ,
                                                            นางเสาวรัตน์  ดีแก่: คณะทำงาน AMR โรงพยาบาลสุรินทร์
                                                                                โรงพยาบาลสุรินทร์ เขตสุขภาพที่ 9
                                                                                ประเภท นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์


                  ความสำคัญของปัญหาวิจัย
                         การติดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลกและในประเทศไทย ปัจจัยสำคัญของ

                  การเกิดเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพคือการใช้ยาต้านจุลชีพมากเกินความจำเป็นอย่างไม่เหมาะสมทำให้เชื้อโรคที่เคยไว
                  กับยาต้านจุลชีพธรรมดากลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยา ดังนั้น การรู้สถานการณ์ของเชื้อดื้อยาให้เป็นปัจจุบันจะ
                  นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ต่อเนื่องต่อไป การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังการดื้อยาต้านจุลชีพในโรงพยาบาลตาม
                  แนวทางของ GLASS Surveillance System ทำให้ทราบเชื้อดื้อยาที่พบได้บ่อยในรพ.และแยกประเภทเป็น

                  การติดเชื้อจากชุมชนหรือการติดเชื้อจากโรงพยาบาลจากสิ่งส่งตรวจหลากหลายชนิด แต่ยังขาดแง่มุมของโรค
                  ติดเชื้อ ยาต้านจุลชีพ เป็นต้น ดังนั้น การพัฒการการเฝ้าระวังการติดเชื้อดื้อยาโดยระบบ  “หนึ่งวัน” มหัศจรรย์
                  ที่ปรับใช้ให้ตรงบริบทกับโรงพยาบาลที่ทำควบคู่ไปกับการสำรวจความชุกการติดเชื้อในโรงพยาบาลจาก
                  หน่วยงานควบคุมและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลที่ทำเป็นประจำทุกปี ทำให้ให้ทราบสถานการณ์ปัจจุบัน

                  ในระดับโรงพยาบาลแล้วนำไปประเมิน วิเคราะห์เพื่อออกแนวทาง และจัดการเชื้อดื้อยาต่อไป

                  วัตถุประสงค์การศึกษา: เพื่อทราบข้อมูลพื้นฐาน การติดเชื้อ การใช้ยาต้านจุลชีพ ปัญหาเชื้อดื้อยา
                  ในโรงพยาบาลให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันและครอบคลุมในหลายมิติ

                  วิธีการศึกษา: Action research โดยแบ่งการวิจัยเป็นระยะดังนี้
                         1.  pre-action study: ทีมวิจัยกำหนดรูปแบบการเก็บข้อมูลโดยทำควบคู่กับการสำรวจความชุก
                  ประจำปี พ.ศ. 2567 ให้งานมีความเชื่อมโยงกัน กำหนดวันที่จะสำรวจ และเตรียมข้อมูลผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับ

                  ยาต้านจุลชีพในช่วงวันที่กำหนด ออกแบบ case record form และลองเก็บข้อมูลดูก่อนเพื่อปรับแก้ให้เข้าใจ
                  ตรงกันมากที่สุด
                         2.  action study: วันที่สำรวจความชุกแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกให้ความรู้เรื่องงานป้องกันและควบคุม

                  การติดเชื้อ คำจำกัดความต่างๆ และแนวทางการเก็บข้อมูลทั้งความชุกการติดเชื้อในรพ. และข้อมูลพื้นฐานของ
                  ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านจุลชีพในเวลา 24 ชม.ของวันที่กำหนด พูดคุย แลกเปลี่ยน ช่วงต่อมาวันลงสำรวจและ
                  เก็บข้อมูลผู้ป่วยในทุกราย หากพบปัญหาการเก็บข้อมูลแก้ไขทันที
                         3.  post- action study: หลังจากรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยในที่ได้รับยาต้านจุลชีพ นำข้อมูลมาตรวจสอบ
                  ความถูกต้องและครบถ้วน ต่อมานำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยเฉพาะในเรื่องยาต้านจุลชีพ ขนาดยา ข้อบ่งชี้ใช้ยา

                  ประเภทการติดเชื้อ ติดเชื้อแบบใด แล้วสรุปผล รายงานสถานการณ์ต่อไป

                  ผลการศึกษา: ผลการสำรวจความชุกกับโครงการ”หนึ่งวัน”มหัศจรรย์เพื่อจัดการเชื้อดื้อยา เมื่อวันที่

                  21 มีนาคม พ.ศ. 2567 ในทุกหอผู้ป่วยจำนวน 44 หอผู้ป่วย มีผู้ป่วยในจำนวนทั้งสิ้น 967 ราย พบว่า มีผู้ป่วย
                  ในได้รับยาต้านจุลชีพทั้งรูปฉีดและกิน จำนวน 333 ราย(ร้อยละ 34.4) คิดเป็นชนิดฉีด 294 ราย(ร้อยละ88.3)
                  ชนิดกิน 39 ราย(ร้อยละ11.7) แผนกอายุรกรรมมีการใช้ยาต้านจุลชีพสูงสุด ร้อยละ 49.0 รองมาเป็นแผนก
   576   577   578   579   580   581   582   583   584   585   586