Page 713 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 713
Q25
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองหลังการรับยาโควิด 19
ของอำเภอหนึ่งในจังหวัดยโสธร
1
2
ชาญชัย บุญเชิด และ โสธรา อนุกูลประชา
1
โรงพยาบาลกุดชุม โรงพยาบาลไทยเจริญ
2
เขตสุขภาพที่ 10
ประเภทวิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
การรักษาจากทีมแพทย์และสหวิชาชีพ ในการควบคุมโควิด19 ได้มีการนำฟ้าทะลายโจร Favipiravir
Molnupiravir และ Remdesivir ในคนไข้นอนโรงพยาบาล จากการติดตามผลของการรักษาหลังจากการ
ดำเนินการร่วมมือของรพ.สต. อสม. โรงพยาบาล ในการควบคุมสถานการณ์โดยใช้ยารักษาลดการระบาดใน
พื้นที่ มีการนำส่งยาถึงบ้าน ลดการแออัดในโรงพยาบาลซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการกระจายของเชื้อเพิ่มมากขึ้น
แต่เนื่องจากยารักษาไวรัสโควิด เป็นยาใหม่ อีกทั้งผลลัพธ์และประสิทธิภาพของยาที่ใช้รักษาโควิดยังเป็น
ประเด็นที่ต้องติดตามและยังต้องรองานวิจัยเพื่อยืนยันถึงผลและประสิทธิภาพของยา ในสถานการณ์ปัจจุบัน
โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ต้องใช้เทคโนโลยีในการรักษาใหม่ๆ มีค่าใช้จ่ายสูง เวลาของการเกิดโรค การ
วินิจฉัย ต้องมีความรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดเป็นสาเหตุของการเสียชีวิดของคนไทยเป็นอันดับต้น ๆ หรือ
ก่อให้เกิดความพิการติดเตียงได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยรักษาในระยะเวลาที่รวดเร็ว ถูกต้อง ฐานข้อมูลของ
โรงพยาบาลจึงมีความสำคัญสามารถนำมาวิเคราะห์และประมวลผลทางสถิติ เพื่อช่วยให้ผู้บริหารสามารถ
ตัดสินใจสนับสนุนหรือใช้เทคโนโลยีเหล่านั้น ในงบประมาณที่จำกัดได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในการจัดการบริหารจัดการด้านยาและสุขภาพหลังช่วงสถานการณ์โควิด 2019
วัตถุประสงค์การศึกษา
ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองหลังการรับยาโควิด 19 ของอำเภอแห่งหนึ่ง ใน
จังหวัดยโสธร
วิธีการศึกษา
การวิจัยนี้เป็นวิจัยภาคตัดขวางเชิงพรรณนา (crosssectional descriptive research design) โดย
เก็บข้อมูลแบบย้อนหลัง(Retrospective study) เก็บข้อมูลในเวชระเบียนทางอิเล็กทรอนิกส์ของโรงพยาบาล
(HosXP) เป็นระยะเวลา 3 ปี ระหว่าง 11 มีนาคม 2563 ถึง 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ศึกษาข้อมูลปัจจัยที่มี
ผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองหลังการรับยาโควิด 19 วิเคราะห์ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Chi-
square test Multiple logistic regression การศึกษาครั้งนี้ได้ผ่านการรับรองโดยคณะกรรมการจริยธรรม
การวิจัยของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร โดยยึดเกณฑ์ตามคำประกาศเฮลซิงกิ(Declaration of
Helsinki) วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ลำดับที่ 6635/2566 เลขที่ HE 6635
การวิจัยครั้งนี้ทำการศึกษาในผู้ป่วยที่มีผลการติดเชื้อ โควิด19 แล้วเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง จำนวน
ทั้งสิ้น 95 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 69 ปี มีจำนวนวันอุบัติการณ์ของการเกิดโรคหลอดเลือด
หัวใจและสมองหลังการติดเชื้อโควิด 19 เฉลี่ย 189 วัน ผู้ป่วยโควิด 19 และเป็นโรคหลอดเลือดส่วนใหญ่ได้รับ
ยา Favipiravir ร้อยละ 76.84 และ Molnupiravir ร้อยละ 21.05 เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วย
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ได้แก่ เพศ ของผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจและ