Page 760 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 760
S15
ผลของการใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ร่วมรักษาต่อความปวด
ในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย
นิภัสสรณ์ บุญญาสันติ* พย.ม (กลุ่มงานวิจัยและพัฒนาการพยาบล)
ปรียพัศ พรประเสริฐ**พบ.(กลุ่มงานเวชกรรมสังคม)
สุนิสา จุลรอด***เภสัชศาสตร์บัณฑิต (กลุ่มงานเภสัชกรรม)
โรงพยาบาลชลบุรี เขตสุขภาพที่ 6
ประเภทวิชาการ
ความสำคัญของปัญหา
เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายService plan ของกระทรวงสาธารณสุข สาขากัญชาทางการแพทย์
โรงพยาบาลชลบุรีจึงให้บริการรักษาโดยใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ร่วมรักษาเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2562
จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาพบว่ากัญชาถูกนำมาใช้เพื่อจัดการความปวดมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและการใช้
กัญชาทางการแพทย์ร่วมรักษาในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายมีประโยชน์ในการรักษาอาการปวด
ความวิตกกังวลความเครียด ช่วยให้เจริญอาหาร นอนหลับง่ายและนานขึ้น อีกทั้งการใช้กัญชาในผู้ป่วยมะเร็ง
ระยะสุดท้ายยังช่วยให้ผู้ป่วยสั่งเสียครอบครัวได้และไม่ทรมาน ซึ่งลักษณะความปวดและความรุนแรงของผู้ป่วย
มะเร็งและมะเร็งระยะท้ายจะเป็นๆ หายๆ หรือปวดต่อเนื่อง มากหรือน้อย ขึ้นอยู่พยาธิสภาพของโรค
ความรู้สึกของแต่ละบุคคล ผู้ป่วยแต่ละคนจึงทุกข์ทรมานกับความปวดและกระทบต่อการทำกิจกรรม การใช้ยา
เพื่อควบคุมอาการปวด การนอนหลับ อารมณ์ และอาการรบกวนอื่นๆไม่เท่ากัน ดังนั้นการจัดการความปวด
และอาการรบกวนที่มีคุณภาพตรงกับความรู้สึกปวดของผู้ป่วยจึงมีความสำคัญ และสะท้อนคุณภาพของ
การบริการภายในองค์กร โดยประเมินได้จากคะแนนความปวดเรื้อรัง ความพึงพอใจของผู้ป่วยและญาติต่อ
การจัดการความปวด ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต จำนวนวันนอนโรงพยาบาล การกลับมานอนโรงพยาบาลซ้ำ
ด้วยอาการปวดรุนแรง และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาผลของการใช้น้ำมันกัญชา
ทางการแพทย์ร่วมรักษาต่อความปวดในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายเพื่อให้เกิดผลลัพธ์การดูแล
ผู้ป่วยดีขึ้น
วัตถุประสงค์การศึกษา
เพื่อเปรียบเทียบระดับความปวด คุณภาพชีวิตก่อนและหลังใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ร่วมรักษาใน
ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยระยะท้าย และศึกษาความพึงพอใจของผู้ป่วย/ญาติ หลังใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์
ร่วมรักษาในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยระยะท้าย
วิธีการศึกษา
การวิจัยเป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-experiment) แบบวัดผลก่อน-หลัง (One group Pretest-
posttest design) โดยนำแนวคิดความปวดในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยระยะท้าย แนวคิดเรื่องคุณภาพชีวิตของ
องค์การอนามัยโลก (WHO) และ ความพึงพอใจ ของVROOM มาเป็นกรอบแนวคิด ดำเนินการศึกษาใน
ระหว่างเดือนมิถุนายน 2566 ถึงเดือนมกราคม 2567 ประชากรคือ ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย
ที่คลินิกระงับปวด และคลินิกกัญชาทางการแพทย์ กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของ อจ. เพชรน้อย
สิงห์ช่างชัย, 2535 ประชากรไม่เกิน100 กำหนดให้กลุ่มตัวอย่าง เท่ากับ 100% จึงเก็บข้อมูลจำนวน 15 ราย
สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลคือ แบบประเมินความปวดเรื้อรังฉบับภาษาไทย
(SPAASMS Score for Chronic Pain Thai’s version) แบบประเมินคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ ฉบับภาษาไทย
EQ-5D-5L และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย/ญาติต่อการจัดการความปวดหลังใช้น้ำมันกัญชาทาง