Page 89 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 89
B17
ระดับมากที่สุด ผลการเปรียบเทียบของคะแนนเฉลี่ยความคาดหวังในผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ด้วยวิธี HPV Self Sampling และคะแนนเฉลี่ยแรงสนับสนุนทางสังคมในการรับบริการตรวจคัดกรองมะเร็ง
ปากมดลูก อยู่ระดับมากที่สุด เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.001
อภิปรายผล
การพัฒนารูปแบบการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV Self Sampling ของ
สตรีอายุ 30-60 ปี ด้วยกลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน มีความสะดวก เข้าถึงบริการได้ง่าย
ลดความอายในการตรวจ สอดคล้องกับการศึกษาของ นีสรีน สาเร๊ะ ซึ่งศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ
พฤติกรรมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของสตรี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ผลการศึกษา พบว่า
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของสตรีอายุ 30-60 ปี ได้แก่ ด้านความ
สะดวกในการเข้ารับบริการ
สรุปและข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาการพัฒนารูปแบบการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV Self
Sampling ของสตรีอายุ 30-60 ปี ด้วยกลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน โดยใช้ ทฤษฎีแรงสนับสนุน
ทางสังคม (Social Support Theory) โดยคัดเลือก อสม. ซึ่งเป็นบุคคลที่สตรีกลุ่มเป้าหมาย ให้ความเคารพนับถือ
ไว้วางใจและอยู่ใกล้บ้าน และประยุกต์ทฤษฎีความสามารถของตนเอง (Self-Efficacy Theory) ทำให้ อสม.
มีความเชื่อมั่นในการพูดประชาสัมพันธ์ เชิญชวนสตรี อายุ30-60 ปี ให้ได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ด้วยตนเอง รวมทั้งการรวบรวมสิ่งส่งตรวจและการแจ้งผลตรวจกับผู้รับบริการยังทำได้ง่าย โดยเริ่มดำเนินงาน
ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ส.ค. 2566 ซึ่งรูปแบบฯที่พัฒนาขึ้น ประกอบไปด้วย การพัฒนาศักยภาพของ อสม. โดยการให้
อสม.เป็นผู้ดำเนินการหลักในการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนสตรีกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้รับการตรวจคัดกรอง
มะเร็งปากมดลูก และในการติดตามสตรีกลุ่มเป้าหมายจะมีการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ อย่าง
ต่อเนื่อง ส่งผลให้หลังการพัฒนารูปแบบฯ สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการตรวจ HPV Self Sampling ร้อยละ 100
และมีผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความคาดหวังในผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV
Self Sampling และผลรวมของคะแนนเฉลี่ยแรงสนับสนุนทางสังคมในการรับบริการตรวจคัดกรองมะเร็ง
ปากมดลูก อยู่ระดับมากที่สุด เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001และผู้รับบริการมีความพึงพอใจ
อยู่ระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ สามารถนำวิธีการพัฒนารูปแบบการเข้าถึงการตรวจคัดกรองฯ ด้วยกลไก อสม.ไปประยุกต์ใช้ใน
กลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มผู้นำชุมชน ผู้นำสตรีและสามารถนำไปใช้ในงานอื่นได้ เช่น การตรวจเต้านมด้วยตนเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงเป็นต้น