Page 238 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 238
F24
ยาฝังคุมกำเนิด มีผลทำให้มารดาวัยรุ่นกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้หลังเข้าโปรแกรมฯสูงกว่ามารดาวัยรุ่น
กลุ่มควบคุม
2. มารดาวัยรุ่นหลังคลอดกลุ่มทดลองหลังเข้าโปรแกรมฯ มีความตั้งใจในการใช้ยาฝังคุมกำเนิด
และมีการใช้ยาฝังคุมกำเนิดก่อนจำหน่ายกลับบ้านมากกว่ามารดาวัยรุ่นหลังคลอดกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับการศึกษา อารียา และคณะ(2562) ที่ศึกษาพบว่าการได้รับการสนับสนุน
จากครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามี และมารดาของตนเอง มารดาวัยรุ่นก็จะปฏิบัติตาม และตัดสินใจ
ใช้ยาฝังคุมกำเนิด แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวร่วมกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากตัวแบบทำให้มารดาวัยรุ่นหลังคลอดมีความตั้งใจที่จะใช้ยาฝังคุมกำเนิดมากขึ้น เนื่องจากความตั้งใจกระทำ
พฤติกรรมของบุคคลเกิดจากการที่บุคคลมีทัศนคติที่ดีต่อพฤติกรรม ซึ่งทัศนคติที่ดีมาจากการที่มารดาวัยรุ่น
หลังคลอดมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาฝังคุมกำเนิด และการสนับสนุนจากครอบครัวได้แก่ สามี มารดา
บิดา ซึ่งมีอิทธิพลต่อมารดาวัยรุ่นอย่างมาก หากบุคคลดังกล่าวมีความรู้ความเข้าใจการใช้ยาฝังคุมกำเนิด
จะสนับสนุนให้มารดาวัยรุ่นใช้ยาฝังคุมกำเนิด มารดาวัยรุ่นจะคล้อยตามและตั้งใจยอมรับการใช้ยาฝังคุมกำเนิด
และการได้เรียนรู้จากตัวแบบที่เป็นวัยเดียวกัน มีประสบการณ์การใช้ยาฝังคุมกำเนิดมาแล้ว ทำให้มารดาวัยรุ่น
ยิ่งมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ยาฝังคุมกำเนิดมากขึ้น รวมทั้งการรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม
โดยการเสริมพลังบวกมีความเชื่อว่าจะกระทำพฤติกรรมนั้นได้ ตรงกับแนวคิดทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน
ที่ว่าความตั้งใจกระทำพฤติกรรมของบุคคลเกิดจากการที่บุคคลมีทัศนคติที่ดีต่อพฤติกรรม มีการคล้อยตาม
กลุ่มอ้างอิง และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการควบคุมพฤติกรรม เชื่อว่าตนสามารถใช้ยาฝังคุมกำเนิดได้
อันจะนำไปสู่พฤติกรรมการใช้ยาฝังคุมกำเนิด
สรุปและข้อเสนอแนะ
โปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวร่วมกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากตัวแบบทำให้มารดาวัยรุ่น
ตัดสินใจใช้ยาฝังคุมกำเนิดได้ จึงควรนำโปรแกรมฯ นี้ไปใช้ส่งเสริมการใช้ยาฝังคุมกำเนิดในมารดาวัยรุ่น
ในหน่วยฝากครรภ์ และขยายผลนำไปใช้ในโรงพยาบาลชุมชนในเครือข่าย เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ