Page 235 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 235
F21
ความรู้เกี่ยวกับ
PPH (K)
การจัดการ
การคลอดในระยะที่ 3 การประเมินความ
โดยเร็วและเฝ้าระวัง เสี่ยงต่อPPH
สัญญาณเตือน (A) การพยาบาล (R)
เพื่อป้องกัน
PPH
การปฏิบัติตาม การพยาบาลตาม
มาตรฐานเดียวกัน มาตรฐาน
(Y) (I)
2. หลังใช้รูปแบบฯ ผู้คลอดมีภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก 1 ราย ความรุนแรงระดับ E คิดเป็น
ร้อยละอุบัติการณ์ เท่ากับ 0.38 ลดลงกว่าก่อนใช้รูปแบบ และมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อบริการพยาบาล
ห้องคลอดอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.22 (SD = 0.65)
3. หลังใช้รูปแบบฯ พยาบาลมีคะแนนความรู้เรื่องการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะPPH เฉลี่ยสูงกว่าก่อน
ใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 3.52, p = .00) และมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบอยู่
ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.34 (SD = 0.45)
อภิปรายผล
ผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านผู้รับบริการ และพยาบาลผู้ปฏิบัติงาน เกิดจากรูปแบบการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นมี
องค์ประกอบที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญที่จะช่วยป้องกันภาวะPPH โดยที่การพัฒนารูปแบบฯ มีการใช้หลักฐาน
เชิงประจักษ์ ทำให้ได้แนวปฏิบัติการพยาบาลเป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง สอดคล้องกับผลการ
ประเมินของผู้เชี่ยวชาญที่พบว่า รูปแบบฯมีความเป็นประโยชน์ร้อยละ 98.92 และมีความเป็นไปได้ในการ
นำไปใช้ร้อยละ 98.29
สรุปและข้อเสนอแนะ
ควรนำรูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรกที่พัฒนาขึ้น ไปเผยแพร่
ในการประชุมคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก (MCH Board) ระดับจังหวัด และระดับเขตสุขภาพที่ 5
เพื่อขยายผลการนำไปใช้ นอกจากนี้อาจพัฒนาต่อยอดการศึกษาเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดระยะ 2 – 24 ชั่วโมง
หลังคลอด หรือพัฒนารูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดในรายที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง