Page 233 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 233
F19
การพัฒนารูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19
นางชัชฎา เย็นบ ารุง
โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 จังหวัดกาญจนบุรี เขตสุขภาพที่ 5
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหาวิจัย
ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum Hemorrhage: PPH) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของมารดา
ร้อยละ 27 ทั่วโลก จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในปีพ.ศ.2560 – 2563 มีมารดาเสียชีวิต
จากภาวะตกเลือดหลังคลอดทั่วประเทศ คิดเป็น 21.80, 19.90, 20.30 และ 23.10 ต่อแสนการเกิดมีชีพ
ส่วนในเขตสุขภาพที่ 5 ระหว่างปี พ.ศ.2560 – 2563 พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตเท่ากับ 30.97, 35.65, 40.35
และ 33.42 ต่อแสนการเกิดมีชีพ ตามลำดับ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่19 ภาวะตกเลือดหลังคลอด
เป็นอุบัติการณ์/ความเสี่ยงที่สำคัญของงานห้องคลอด ในปีพ.ศ.2559 พบอัตราการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
ร้อยละ 3.23 (35ราย) ในจำนวนนี้มีระดับความรุนแรงต้องตัดมดลูกจำนวน 6 ราย เมื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง มาจาก
สาเหตุ 1) ผู้ปฏิบัติไม่ได้คัดกรองความเสี่ยงต่อภาวะการตกเลือดหลังคลอดอย่างจริงจัง 2) ไม่มีเกณฑ์การคัด
กรองที่ชัดเจน ทำให้ไม่ได้เฝ้าระวัง มักจะประเมิน/วินิจฉัยการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี (Uterine atony)ได้ล่าช้า
จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการพัฒนาแนวทางการดูแลเพื่อป้องกันภาวะการตกเลือดหลังคลอด ตั้งแต่เดือน
มีนาคม พ.ศ.2560 แต่ในปีพ.ศ.2561 ยังพบอุบัติการณ์อัตราการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดในระดับ G (ตัด
มดลูก) จำนวน 2 ราย โดยมีสาเหตุจากการแก้ไขภาวะหดรัดตัวของมดลูกไม่ดีได้ล่าช้า ในปี พ.ศ.2562 - พ.ศ.
2565 ยังพบอัตราการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดร้อยละ 0.80 (7ราย), ร้อยละ 1.33 (11 ราย), ร้อยละ 0.85 (7 ราย)
และร้อยละ 0.43 (3 ราย) ตามลำดับ ผู้วิจัยจึงได้พัฒนาผลงานนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2566 โดยใช้แนวคิดมาตรฐานการ
บริการพยาบาลทางสูติกรรม การประเมินความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลโดยใช้
หลักฐานเชิงประจักษ์ และแนวคิดการบริหารความเสี่ยง 2P Safety ในการพัฒนารูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกัน
ภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก ในมารดาที่คลอดทางช่องคลอด เพื่อพัฒนาระบบบริการการคลอดของ
โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ให้มีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์การศึกษา
1. เพื่อพัฒนารูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก โรงพยาบาลสมเด็จ
พระสังฆราชองค์ที่ 19
2. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก โรงพยาบาล
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19
วิธีการศึกษา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (research and development) ดำเนินการวิจัยระหว่าง
เดือน พฤศจิกายน 2565 - กันยายน 2566 มีขั้นตอนดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพการณ์และการปฏิบัติการพยาบาลภาวะ PPH ของโรงพยาบาลสมเด็จ
พระสังฆราชองค์ที่ 19 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ พยาบาลห้องคลอด จำนวน 5 คน ใช้การสัมภาษณ์ จากนั้นนำข้อมูล
ที่ได้ไปวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) และศึกษาเวชระเบียนผู้คลอดทางช่องคลอดที่มีภาวะ PPH ในปี
2556 – 2565 จำนวน 152 ฉบับ โดยทำการวิเคราะห์หาสาเหตุหลัก และสาเหตุร่วมของภาวะ PPH