Page 331 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 331
I 15
การพัฒนารูปแบบการชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
เครือข่ายสุขภาพ อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม
นางสุภาพร ทวยมาตร
โรงพยาบาลกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม เขตสุขภาพที่ 7
ประเภท วิชาการ
ความสำคัญของปัญหา
ในปัจจุบันโรคไตเรื่อรัง(Chronic Kidney Disease: CKD เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกรวมทั้ง
ประเทศไทยสถานการณ์ของโรคไตเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากไม่สามารถชะลอไตเสื่อมได้จะมีการดำเนิน
ของโรคไปสู่โรคไตวานเรื้อรังระยะสุดท้าย (End -stage renal Disease) มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
เป็นอย่างมากโดยในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตทั้งสิ้นมากกว่า 170,000 รายและมีจำนวน
ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ19,000-22,000ราย (ข้อมูลการบำบัดทดแทนไตในประเทศไทย พ.ศ. 2563)
และข้อมูลจากระบบ คลังข้อมูลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในปี 2565 พบว่า 1 ใน 25 ของผู้ป่วย
โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง กลายเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง จากการ
วิเคราะห์ผลการดำเนินงานการให้บริการในคลินิกโรคไตโรงพยาบาลกุดรังปีงบประมาณ 2564-2566 พบว่า
ร้อยละของผู้ป่วย CKD ที่มีอัตราการลดลงของ eGFR<5 ml/min/1.73m2/yr ร้อยละ 67.30 ,56.02 , 47.83
มีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย service plan สาขาไต(เป้าหมาย มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 66) สำหรับ
ปัญหาและสาเหตุสำคัญ เกิดจาก 1) การตรวจ creatinine ซ้ำยังไม่ครอบคลุม 2) ผู้ป่วยโรคไตไม่ทราบระยะไต
ของตัวเองและมีพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่เหมาะสม ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเป็นผู้สูงอายุ จากปัญหาดังกล่าว
จึงได้พัฒนารูปแบบการชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เครือข่ายสุขภาพ อำเภอกุดรัง
จังหวัดมหาสารคาม
วัตถุประสงค์
1) พัฒนารูปแบบการชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
2) เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและสามารถชะลอความเสื่อมของไตได้
ตามเป้าหมาย service plan สาขาไต
3) เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตและญาติพึงพอใจ
วิธีการศึกษา
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ(Action Research) กลุ่มตัวอย่าง คือกลุ่มเป้าหมาย
ทีมสหวิชาชีพ อสม อสค ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ที่มีภาวะไตเสื่อมระยะที่ 3 ระยะที่ 4
ที่รับบริการในคลินิกผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโรงพยาบาลกุดรังและได้รับการดูแลติดตามอย่างต่อเนื่องในชุมชน
ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 จำนวน 100 คน เครื่องมือ ประกอบด้วย 1) แบบประเมิน
ความรู้การจัดการตนเองผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะไตเสื่อมระยะที่ 3 ระยะ4 2) แบบบันทึกติดตามระดับ
การทำงานของไต eGFR หลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 เดือน 3) แบบบันทึกเนื้อหาสาระประเด็นคำถาม
การสนทนากลุ่ม 4) แบบประเมินความพึงพอใจ
ระยะดำเนินการวิจัย วงรอบที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 การวางแผน (Planning) ดังนี้ 1. วิเคราะห์สถานการณ์
การชะลอไตเสื่อมระยะที่ 3 ระยะที่ 4 การควบคุมเบาหวาน การควบความดันโลหิต ในคลินิกโรคไม่ติดต่อ
เรื้อรัง โรงพยาบาลกุดรัง จังหวัดมหาสาคามและวางแผนปฏิบัติการ 2. ศึกษาบริบทการจัดการรายกรณี