Page 388 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 388
K21
ตาราง 1 เปรียบเทียบร้อยละในการหดตัวของแผลในสัปดาห์ที่ 1-4 ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ
โดยใช้การทดสอบที (t) และการทดสอบแมนวิทนีย์ยู (Z) (n = 62)
กลุ่มทดลอง กลุ่มเปรียบเทียบ t / Z p
ระยะเวลา (n = 31) (n = 31)
M SD M SD
สัปดาห์ที่ 1 8.95 3.78 0.00 0.00 -7.23 Z < .001
สัปดาห์ที่ 2 15.55 13.39 8.18 8.96 -5.06 Z < .001
สัปดาห์ที่ 3 43.29 14.00 6.51 6.12 13.40 t < .001
สัปดาห์ที่ 4 86.31 16.19 12.59 11.41 -6.81 Z < .001
ค่า เฉลี่ยต่อสัปดาห์ 38.52 8.72 6.82 5.89 16.77 < .001
t
การลดลงของแผลเบาหวานทั้งด้านกว้าง ด้านยาว และด้านลึกในแต่ละสัปดาห์ กลุ่มทดลองมีการ
ลดลงของแผลด้านกว้าง ด้านยาว และด้านลึกเฉลี่ยต่อสัปดาห์ (ตาราง 2) และในสัปดาห์ที่ 1-4 มากกว่า
กลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 โดยกลุ่มทดลองมีขนาดแผลด้านกว้าง ด้านยาว และ
ด้านลึกลดลงเฉลี่ย 0.75, 0.435 และ 0.27 มิลลิเมตรต่อวัน ตามลำดับ ในขณะที่กลุ่มเปรียบเทียบลดลงเฉลี่ย
0.102, 0.104 และ 0.117 มิลลิเมตรต่อวัน ตามลำดับ
ตาราง 2 เปรียบเทียบการลดลงของแผลด้านกว้าง ด้านยาว และด้านลึกเฉลี่ยต่อสัปดาห์ระหว่างกลุ่มทดลอง
และกลุ่มเปรียบเทียบโดยใช้สถิติการทดสอบที (t) และการทดสอบแมนวิทนีย์ยู (Z) (n = 62)
กลุ่มทดลอง (n = 31) กลุ่มเปรียบเทียบ (n =31)
การลดลงของแผล t / Z p
M SD M SD
ด้านกว้าง 0.535 0.129 0.072 0.025 19.55 t < .001
ด้านยาว 0.307 0.085 0.073 0.037 - 4.725 Z < .001
ด้านลึก 0.186 0.035 0.082 0.017 - 6.908 Z < .001
5. ผลการเปรียบเทียบต้นทุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัดแผลต่อคนของกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ
พบว่า กลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบมีต้นทุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัดแผลต่อคนเฉลี่ย 861.94 และ
2,868.06 บาท ตามลำดับ โดยต้นทุนของกลุ่มทดลองต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
ระดับ .001
อภิปรายผล
ผลการศึกษาพบว่า การส่งเสริมการหายของแผลเบาหวานที่เท้าด้วยก๊อซขมิ้นชันมีผลต่ออัตรา
การหายของแผลหลังทำแผล 4 สัปดาห์ ระยะเวลาในการหายของแผล ความรุนแรงของแผล การหดตัวของ
แผล การลดลงของแผลด้านกว้าง ด้านยาว และด้านลึก รวมทั้งต้นทุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำแผลต่อคน เป็นไป
ตามสมมติฐานการวิจัย เนื่องจากกลุ่มทดลองทำแผลด้วยก๊อซขมิ้นชันที่มีสารสำคัญคือเคอร์คิวมิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้าน
การอักเสบ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้มีผลต่อความเร็วในการหายของแผล ความรุนแรง และการหดตัว
ของแผล (อภิรักษ์ ช่วงสุวนิช และพิตะวัน ราชตา, 2561) ในระยะการอักเสบนั้น เคอร์คิวมินช่วยลดการ
อักเสบของแผลจากการช่วยยับยั้งการสร้างไซโตไคน์ ลดการสร้างไคเนส และเพิ่มองค์ประกอบของโปรตีน IκB-
α ส่งผลให้แผลมีการอักเสบลดลง (Mohanty et al., 2012) อีกทั้งเคอร์คิวมินยังช่วยเพิ่มระดับของไซโตไคน์ที่
ต้านการอักเสบได้แก่ IL-10 และ catalase (Kant et al., 2014) ด้วยการเร่งปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ต้านอนุมูล
อิสระ superoxide dismutase และ glutathione peroxidase ส่งผลให้มีการยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ