Page 626 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 626
Q12
cannula มีความบอบบาง ทำให้อุปกรณ์ไม่มีคุณภาพ 2) ด้านโครงสร้าง ผู้ป่วย on HHHFNC ที่รับไว้ที่
ตึกสามัญ พบได้กรณีเตียงหอผู้ป่วยวิกฤตเต็ม หรือผู้ป่วยเป็นโรคที่มีการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ เช่น
COVID-19 หรือวัณโรค เนื่องจากในหอผู้ป่วยวิกฤตไม่มีห้องแยก 3) ด้านบุคลากร พบว่าพยาบาลมีทัศนคติที่ดี
ต่อการใช้ HHHFNC เนื่องจากดูแลง่ายกว่าใส่เครื่องช่วยหายใจ และเห็นผลลัพธ์ที่ดีของผู้ป่วย อีกทั้งทีมผู้วิจัย
ได้เตรียมความพร้อมพยาบาล โดยการจัดอบรมให้ความรู้ การนิเทศกำกับที่หน้างาน สม่ำเสมอ สังเกต
การปฏิบัติ ติดตามผลและปรับปรุง แก้ไขปัญหาต่างๆ ระหว่างการนำรูปแบบไปใช้ ตั้งแต่การเลือกขนาด
Nasal prong การใส่และการยึดตรึงโดยมีแผ่นรองที่ผิวหนัง การติดตามภาวะแทรกซ้อนโดยการตรวจสอบ
ตำแหน่งที่มีการกดทับเป็นระยะ ๆ และการปรับความชื้นที่เหมาะสม เฝ้าระวังความล้มเหลวจากการใช้
HHHFNC ด้วยการประเมิน ROX index พยาบาลมีความรู้ มีความมั่นใจมากขึ้น สามารถให้การพยาบาล
ผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบาก ที่ใส่ High-Flow Nasal Cannula อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การหายใจ
และการแลกเปลี่ยนก๊าซของผู้ป่วยดีขึ้น ลดอัตราการใส่เครื่องช่วยหายใจ ลดระยะเวลาในการรักษาตัว
เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ ทำให้ลดค่าเฉลี่ยวันนอนลดลงจาก 15.25 วัน เหลือ 6.83 วัน แตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ
สรุปและข้อเสนอแนะ
ผลลัพธ์ที่ดีของการพยาบาลครั้งนี้ มาจากรูปแบบการพยาบาล ซึ่งประกอบด้วย การพยาบาล
ก่อนบำบัด ขณะบำบัดและหลังให้การบำบัดด้วย HHHFNC ที่มีการพัฒนาบนพื้นฐานของหลักฐาน
เชิงประจักษ์ โดยมีส่วนร่วมของทีมสหสาขาที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่ยอมรับและง่ายต่อการปฏิบัติตาม พยาบาล
มีทักษะในการติดตามและเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง มีความสามารถในการตัดสินทางคลินิกเกี่ยวกับ
การเลือกวิธีบำบัดด้วยออกซิเจน มีการเฝ้าระวังการเกิดความล้มเหลวจากการใช้งานอย่างใกล้ชิด และการหย่า
เครื่องตามแผนการรักษา ทำให้พยาบาลมีสมรรถนะในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วย HHHFNC
เกิดผลลัพธ์การพยาบาลที่มีดี พยาบาลจึงมีบทบาทสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ด้านการบริหาร
ผู้บริหารใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน การกำหนดนโยบายบริหารการพยาบาลตามรูปแบบที่พัฒนา
