Page 66 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 66
A27
ปี 56-70 ปี และ71 ปีขึ้นไป) กับปัจจัยต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ไม่แตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ (p=0.183) โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ไม่แตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ (p=0.865) โดยพบว่ากลุ่มที่สูงอายุมากกว่า 71 ปีและมีโรคประจำตัวมากกว่า 2 โรค
มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.001)
ตารางที่ 1 แสดงปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อเกิดโรคหลอดเลือดหลังติดเชื้อโควิด 19
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือด Odd Ratio 95%Confidence Interval p-value
หลังติดเชื้อโควิด 19 (N=95)
- การมีอายุมากกว่า71ปีขึ้นไปต่อโรคหลอดเลือด -1.33 -0.2311251 - 0.0457944 0.187 b
หัวใจและสมอง
- การมีอายุมากกว่า71ปีขึ้นไปต่อการมีโรค 4.72 0.2618694 -0.6420099 b
ประจำตัวมากกว่า2โรคขึ้นไป 0.001
c
a
b
หมายเหตุ Kruskal willis test, Multiple logistic regression, Chi-square test
อภิปรายผล
จากการศึกษาในด้านปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหลังติดเชื้อโควิด 19 พบว่า
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์สูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง คือ อายุมากกว่า 71 ปี การมีโรค
ไม่ติดต่อเรื้อรังมากกว่า 2 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.001) โดยใช้การวิเคราะห์
Multiple Logistic Regression สำหรับ เพศ ของผู้ป่วยกับการเกิดโรคหัวใจและสมอง ไม่แตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ (p=0.679) ในด้านระดับอายุ (น้อยกว่า 55 ปี 56-70 ปี และ71 ปีขึ้นไป) กับปัจจัย
ต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p=0.183) โรคไม่ติดต่อ
เรื้อรังต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p=0.865) โดยพบว่า
กลุ่มที่สูงอายุมากกว่า 71 ปีและมีโรคประจำตัวมากกว่า 2 โรค มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีความ
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p=0.001) โดยใช้สถิติ Kruskal Willis test
สรุปและข้อเสนอแนะ
ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหลังติดเชื้อโควิด 19
พบว่า กลุ่มคนไข้ที่มีอายุมากกว่า 71 ปี มีโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากกว่า 2 ชนิด (p-value<0.001) มีความ
จำเป็นต้องติดตามเฝ้าระวังการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอย่างน้อย 189 วัน อย่างไรก็ตาม การศึกษา
ในครั้งนี้ควรติดตามข้อมูลด้านจำนวน และชนิดของวัคซีนที่อาจส่งผลต่ออุบัติการณ์การเกิดโรคหลอดเลือด
สมองและหัวใจเพิ่มเติม และการศึกษาครั้งทำการศึกษาในโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก การนำผลการศึกษาไป
อ้างอิงหรือการวิจัยต่อควรทำด้วยความระมัดระวัง