Page 61 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 61
A22
ผลลัพธ์การดำเนินงาน
ปีงบประมาณ
ตัวชี้วัด
2564 2565 2566 2567
Door to EKG ≤ 10 min (min) 28.29 12.8 8.6 3.3
Door to Diagnosis ≤ 30 min (min) - - 94.75 50
อัตราตายในผู้ป่วย STEMI ≤ 9% 3.44% 4% 7.19% 33.33%
พยาบาลมีความพึงพอใจและใช้แนวทางปฏิบัติการ 80% 90% 100% 100%
ประเมินผู้ป่วยSTEMI
อภิปรายผล
การพัฒนาแนวทางปฏิบัติการประเมินผู้ป่วยSTEMIโรงพยาบาลโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พบว่าในปี
2566 – 2567 (ต.ค. 66 – ก.พ. 67) อัตราผู้ป่วย STEMI ที่ Door to EKG time < 10 min ได้ 100%
เวลาเฉลี่ย คือ 8.6 นาที และ 3.3 นาทีตามลำดับ และ Door to Diagnosis ระยะเวลาลดลงจาก 94.75 min
เป็น 50 min เนื่องจากมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน มีแบบประเมินอาการเจ็บแน่นหน้าอกที่เข้าใจง่ายขึ้น
ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น พยาบาลน้องใหม่มีความมั่นใจสามารถประเมินคัดกรองคนไข้
ได้อย่างรวดเร็ว การจัดทำ Time line case แบบFish Bone Diagram ทำให้มองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
ร่วมกับการทำ Morning Brief ทุกเช้าของ Nurse case management การจัด Tracing MI และจัดทำป้าย
early warning sign ร่วมกับมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ป่วยรอดชีวิตได้ แต่ยังพบอัตรา
ตายในผู้ป่วย STEMI คิดเป็น 33.33% จาการทบทวนพบว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ ที่มีภาวะ Cardiac
arrest มาจากบ้านแล้ว และปฏิเสธการส่งต่อ พยาบาลมีความพึงพอใจและใช้แนวทางปฏิบัติการประเมินผู้ป่วย
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 100% ในปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของมรรยาท ขาวโต
และคณะ ได้พัฒนาแนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด ST segment ยกขึ้น
ในระยะวิกฤติงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ผลพบว่าจำนวนผู้ป่วย Door to needle time ภายใน 30 นาที
ทันเวลามากขึ้นมีนัยสำคัญทางสถิติที่ (p-value <.05) ความรู้ของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจขาด
เลือดเฉียบพลันอยู่ในระดับสูงคิดเป็นร้อยละ 100
ข้อเสนอแนะ
จากปัญหาในการดำเนินการวิจัยพบประเด็นที่เป็นปัญหาคือ ผู้รับบริการยังเข้าถึงบริการที่ล่าช้า
เนื่องจากยังขาดความรู้เกี่ยวกับโรค อาการที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล อัตราตายสูงพบว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิต
เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวร่วมกับการสูบบุหรี่ จึงมีข้อเสนอแนะการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้
1. มีกระบวนการ Health promotion เน้นการประชาสัมพันธ์การเข้าถึงช่องทาง Fast track
2. การประเมิน CVD - Risk ให้ครอบคลุมในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
3. ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ควรมีการติดตามเพื่อส่งเข้าคลินิกเลิกบุหรี่และจัดกิจกรรมรณรงค์พิษบุหรี่ในพื้นที่