Page 733 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 733
T20
ผู้ป่วยทุกรายได้รับยาบรรเทาอาการความทุกข์ทรมานในการรักษาแบบประคองตามการประเมิน
อาการ ESAS ตามอาการของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งมีการติดตามประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยา
ของผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม strong opioids เท่ากับ 91 ราย (ร้อยละ 86.66) ซึ่งมากกว่าร้อยละ
40 เป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงยาบรรเทาอาการต่างๆ ที่ควรได้รับ ปัญหาที่เกี่ยวกับยาก่อนการให้
บริบาลทางเภสัชกรรม เฉลี่ย 2.7 DRPs ต่อคน หลังการให้บริบาลทางเภสัชกรรม เฉลี่ย 0.7 DRPs ต่อคน
มีจำนวนผู้ป่วยที่ re-admit ด้วยเรื่องปวดหรืออาการอันไม่พึงประสงค์จากยา มีแนวโน้มลดลงลดลงจากร้อยละ
8.8 ก่อนเริ่มดำเนินงานเหลือเพียงร้อยละ 2.4 เปรียบเทียบปัญหาที่เกี่ยวกับยาก่อนและหลังกระบวนการ
จัดการด้านยาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.000) หลังเริ่มดำเนินงานการประเมินและจัดการ
ADR ในผู้ป่วยในก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น การจัดการเรื่องปัญหาท้องผูกจากยาโดยการให้ยา
ระบายป้องกัน ทำให้ปัญหาลดลงจากร้อยละ 35.56 เหลือร้อยละ 5.55
อภิปรายผล
เมื่อเพิ่มความใส่ใจในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการรบกวนทที่ทำให้เกิดความทุกข์ ทรมานจากโรคมะเร็ง
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมอาการปวด เหนื่อยหอบและอาการรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การดูแลด้านอื่นๆ โดยเฉพาะด้านอารมณ์ และจิตวิญญาณของผู้ป่วย ทำได้ง่ายขึ้น
สรุปและข้อเสนอแนะ
สามารถนำไปใช้ในเป็นแนวทางการพัฒนาในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายในโรงพยาบาลอื่นๆ
และขยายการดูแลผู้ป่วยร่วมกับสหวิชาชีพใน service plan อื่น ๆ ได้ จากการพัฒนาการใช้องค์ความรู้และ
ทักษะร่วมกันของทีมสหวิชาชีพดูแลผู้ป่วยที่มีอาการปวด เหนื่อยและรบกวนต่างๆ และได้สร้างเครือข่ายที่
สามารถดูแลต่อเนื่องลงไปถึงชุมชนเมื่อผู้ป่วยกลับไปอยู่ที่บ้านและเกิดระบบดูแลอย่างยั่งยืนต่อไป