Page 260 - Best Practice Poster 2024 (อัพเดต)
P. 260
F18
ของโปรแกรม E1 : E2 เท่ากับ 82.50 : 85.50 ประกอบด้วย กิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระยะเวลา
6 เดือน ดังนี้
ครั้งที่ 1
การรับรู้และแปลผลสุขภาพ และการปรับแนวคิดเพื่อสร้างพลัง ดึงศักยภาพ และความสามารถที่จะ
ค้นหาทางออก คำตอบ หรือวิธีการ (solution) ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำแบบประเมินความรู้สำหรับ
เป็นข้อมูลเบื้องต้น ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นกลุ่มตัวอย่างจะได้รับข้อมูลผลการตรวจร่างกาย นำมาประเมินผล
ของตนเองว่าอยู่กลุ่มใด จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสร้างแนวคิดเพื่อสร้างพลังดึงศักยภาพ และความสามารถ
ที่จะค้นหาทางออก คำตอบ หรือวิธีการ(solution) ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในขั้นตอนนี้แต่ละคนจะได้
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนเองสู่และตั้งเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองในครั้งแรก
ผู้วิจัยแจกสมุดประจำตัว ให้ประเมินคะแนนตนเองว่าอยู่ที่คะแนนเท่าไร ทำอะไรมาบ้างแล้วและต้องทำอะไรเพิ่ม
และให้นำกลับไปทำเป็นการบ้าน นัดเวลาเพื่อการบำบัดครั้งต่อไป
ครั้งที่ 2-6
ก. ในการบำบัดเยี่ยม 1 สัปดาห์, 2 สัปดาห์, 1 เดือน, 1 เดือน, 1 เดือน, 3 เดือน ทุกครั้ง จะมีการสรุปผล
จากการตั้งเป้าหมาย การประเมินตนเองจากผลการชั่งน้ำหนัก ตรวจน้ำตาลและความดันโลหิต การให้คะแนน
ตนเอง สรุปผลสำเร็จ จากนั้นนำผลจากกิจกรรมในรอบที่ผ่านมา นำมาตั้งเป้าหมายใหม่ ผู้วิจัยให้แนวทาง
ด้านวิชาการในส่วนที่กลุ่มตัวอย่างยังมีไม่เพียงพอ การประเมินความก้าวหน้าด้วยตนเองและค้นหาทางออก
ที่จะพัฒนาความก้าวหน้าและจัดกิจกรรมของตนเองในสัปดาห์ต่อไป
ข. เมื่อครบครั้งที่ 6 คือ ระยะเวลา 6 เดือน ผู้วิจัยตั้งประเด็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และตั้งเป้าหมาย
ต่อเนื่องเพื่อคงพฤติกรรม จะสรุปผลและทำแบบเมินความรู้ และแนะนำการเตรียมตัวคลอด
สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับข้อมูลพื้นฐาน และ สถิติที่ใช้
เปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่ม แบบ nonparametric ได้แก่ Wilcoxon Signed-Rank Test
ผลการศึกษา
1. กลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมฯ มีคะแนนเฉลี่ยความรู้ ระดับน้ำตาล (DTX.) หลังเข้าโปรแกรมสูงกว่า
ก่อนเข้าร่วมโปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
2. ร้อยละ 91.70 ของกลุ่มตัวอย่างที่เข้าโปรแกรมไม่ต้องใช้ยาฉีด Insulin
3. ไม่พบการเกิดภาวะแทรกซ้อนในการคลอดทั้งมารดาและทารก
4. กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจโปรแกรมนี้มีประโยชน์และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ อยู่ในระดับ
มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.92 , 0.29 ( X ,SD.)
อภิปรายผล
โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบมุ่งเน้นหาทางออกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาล
ในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการวินิจฉัยเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ที่พัฒนาขึ้นช่วยให้กลุ่มตัวอย่างมีความรู้
หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีทักษะในการควบคุมระดับน้ำตาล
ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากโปรแกรม ฯ ที่พัฒนาขึ้นช่วยให้กลุ่มตัวอย่างพัฒนาการ
เรียนรู้ของตนเอง ซึ่งการมีความรู้ ความเข้าใจที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างสามารถนำความรู้ที่ได้มา
วิเคราะห์หรือเปรียบเทียบอย่างมีเหตุผล เกี่ยวกับแนวทางการมีพฤติกรรมที่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และส่งผลให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก กระบวนการที่สร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ
มีประสิทธิภาพ ร่วมกับการนำแนวคิดการเรียนรู้ในวัยผู้ใหญ่มาสร้างกระบวนการซึ่งเหมาะกับกลุ่มตัวอย่าง
และการให้คำปรึกษาเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบการให้คำปรึกษาเพื่อหาทางออก (Solution-focused
counseling) ที่นำศักยภาพของกลุ่มตัวอย่างในการเรียนรู้ และหาทางออกที่เหมาะสมในการจัดการปัญหา