Page 632 - Best practice_Oral2024 (อัพเดต)
P. 632
Q18
จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2563 ถึง เดือนมกราคม 2564 คำนวณขนาดตัวอย่างที่เหมาะสม
จากสัดส่วนและ Margin of error ของการติดเชื้อ Chlamydia trachomatis ในผู้ป่วย NGU ด้วยสูตรของ
W.G. Cochran เท่ากับ 22 ราย ซึ่งจากการศึกษาครั้งนี้ใช้ตัวอย่างจำนวน 56 รายผู้รับบริการมีประวัติ
พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและผลการตรวจ Urethral gram stain ไม่พบ Gram negative diplococci
ทำการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis โดยวิธี Nucleic
acid amplification testing (NAAT) ด้วยชุดน้ำยาสำเร็จรูป Xpert CT/NG Assay นำเสนอข้อมูลด้วยความถี่
ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้สถิติ Receiver operating characteristic (ROC) curve เพื่อหา
ค่าความไว (Sensitivity) ค่าความจำเพาะ (Specificity) และพื้นที่ใต้กราฟ (Area under curve; AUC)
เพื่อวิเคราะห์ค่าตัดแบ่งที่เหมาะสมของปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้องจากตัวอย่างในท่อปัสสาวะ เพื่อทำนาย
การตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis ในปัสสาวะ
ผลการศึกษา
ผู้รับบริการที่มีประวัติพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและผลการตรวจ Urethral gram stain ไม่พบ Gram
negative diplococci จำนวน 56 ราย ไม่พบ PMNs ในวงกล้อง (Negative) จำนวน 18 ราย พบปริมาณ
PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้องไม่เกิน 4 cells/oil field จำนวน 20 ราย พบปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้อง 5-10
cells/oil field จำนวน 11 ราย พบปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้อง 11-20 cells/oil field จำนวน 3 ราย
พบปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้อง 21-40 cells/oil field จำนวน 3 ราย และพบปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อ
วงกล้อง > 41 cells/oil field จำนวน 1 ราย คิดเป็นปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้อง 5.5 cells/oil field
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 10.9 cells/oil field ค่าต่ำสุด 0 cells/oil field และค่าสูงสุด 56.3 cells/oil field
เมื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis โดยวิธี Nucleic acid amplification testing
(NAAT) ด้วยชุดน้ำยาสำเร็จรูป Xpert CT/NG Assay พบสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis
ในปัสสาวะ (CT Detected) จำนวน 11 ราย และไม่พบสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis
ในปัสสาวะ (CT Not detected) จำนวน 45 ราย เมื่อวิเคราะห์ Receiver operating characteristic (ROC)
curve พบว่า ค่าตัดแบ่งที่เหมาะสมของปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้องเพื่อทำนายการตรวจพบสารพันธุกรรม
ของเชื้อ Chlamydia trachomatis ในปัสสาวะคือ 8.6 cells/oil field มีค่าความไวร้อยละ 90.9 และมีค่า
ความจำเพาะร้อยละ 93.3 เมื่อเปรียบเทียบกับค่าตัดแบ่งของปริมาณ PMNs เฉลี่ยต่อวงกล้อง > 5 cells/oil
field ที่ใช้เป็นเกณฑ์วินิจฉัยเพื่อการรักษาโรคหนองในเทียมในผู้ป่วยที่มีประวัติพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
มีค่าความไวร้อยละ 90.9 และมีค่าความจำเพาะร้อยละ 82.2 พื้นที่ใต้กราฟของการทดสอบ (Area under
curve; AUC) เท่ากับ 0.98 แสดงดังรูปที่ 1
AUC = 0.98
รูปที่ 1 พื้นที่ใต้กราฟเพื่อทำนายการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ Chlamydia trachomatis ในปัสสาวะ