Page 182 - แนวทางการพัฒนาการจัดระบบบริการสุขภาพ
P. 182
คู่มือแนวทางการอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด-อสว.)
ใบความรู้ที่ ๖.๒
กิจกรรมบริหารกายที่เหมาะสมกับพระสงฆ์
แผนกิจกรรมที่ ๖ ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
บทนำ
นับตั้งแต่มีการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะ ภายใต้
มติมหาเถรสมาคมที่ ๑๙๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ประกาศธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์
แห่งชาติพุทธศักราช ๒๕๖๐ มีการกำหนดให้วัดเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาวะของชุมชน และพระสงฆ์เป็น
ผู้นำด้านสุขภาวะนั้น ส่งผลให้พระสงฆ์มีความจำเป็นต้องมีความรู้ด้านสุขภาพ การปรับเปลี่ยนอิริยาบถ รวมถึง
มีการบริหารกายที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยอย่างสม่ำเสมอ
จากความร่วมมือของคณะสงฆ์ หน่วยงาน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จึงนำมาสู่แนวทางการ
สร้างเสริมและดูแลสุขภาพตนเองของพระสงฆ์ตามหลักพระธรรมวินัย ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ การมีกิจกรรม
บริหารกายที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการมีสุขภาพที่ดี
การมีกิจกรรมบริหารกายไม่เพียงพอเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับที่ ๔ ของสุขภาพประชากรโลก (World
Health Organization : WHO, ๒๐๑๐) เนื่องจากการที่มีกิจกรรมบริหารกายไม่เพียงพอเป็นการเพิ่มปัจจัย
เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สำหรับปัญหาสุขภาพของพระสงฆ์พบว่า ครึ่งหนึ่งของพระสงฆ์มีภาวะ
อ้วนลงพุงซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ และขาดกิจกรรมทางกายหรือขาด
การบริหารกาย อีกทั้งผลการสำรวจสุขภาพพระสงฆ์ทั่วประเทศพบว่า ๕ อันดับแรกของปัญหาสุขภาพจาก
โรคเรื้อรังของพระสงฆ์ ได้แก่ ไขมันในเลือดผิดปกติ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไตและ ข้อเข่าเสื่อม
(กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๕๘)
การมีกิจกรรมบริหารกายที่เหมาะสมและเพียงพอของพระสงฆ์เป็นประเด็นความสำคัญ เนื่องจาก
บริบทของพระสงฆ์ตามกิจของพระสงฆ์และพระธรรมวินัย ทำให้พระสงฆ์ต้องสำรวมในที่สาธารณะ ไม่สามารถ
มีการบริหารกายได้หลากหลายเหมือนชายไทยทั่วไป การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอโดยคำนึงถึงจริยาวัตร
ที่งดงาม และแนวปฏิบัติที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์จึงมีความสำคัญเพื่อส่งเสริมให้พระสงฆ์มีสุขภาพดีลดปัจจัยเสี่ยง
สาเหตุของการป่วยและตายด้วยโรคเรื้อรังจากพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสม
ความหมายและความสำคัญของกิจกรรมบริหารกาย
กิจกรรมบริหารกายของพระสงฆ์ หมายถึง การที่พระสงฆ์สามารถเคลื่อนไหวร่างกายในกิจวัตรประจำวัน
ที่อาศัยการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่างและก่อให้เกิดการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งจะ
ครอบคลุม ๓ บริบท คือ
๑. บริบทการเคลื่อนไหวร่างกายในกิจวัตรของพระสงฆ์ เช่น การเดินบิณฑบาต การเดินจงกรม การกวาด
ลานวัด ทำความสะอาดกุฏิ/ศาลาวัด การจัดเตรียมสถานที่ในงานพิธีสงฆ์ งานก่อสร้าง งานปลูกต้นไม้ เป็นต้น
๒. บริบทการเดินเท้าไปทำกิจนิมนต์ภายนอกวัด
๑๐๖